คนดนตรีจัดหนัก พาเหรดไม่เอาเลือกตั้ง!

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์

ขณะที่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ยังเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้น บทบาทของคนบันเทิงที่ออกมาเคลื่อนไหวก็กลายเป็นภาพที่ชินตา เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนอะไรบางอย่างได้เป็นอย่างดี และก่อนที่การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ความเคลื่อนไหวของของคนบันเทิงก็ยิ่งคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคนดนตรีจำนวนหนึ่ง ที่เราได้เห็นบทบาทของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด ทางสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพโปสเตอร์ที่ของ โจ จิรายุส วรรธนะสิน นักแสดงและร้องชื่อดัง ที่มีคิวจะจัดคอนเสิร์ตสตรีทโชว์เป็นครั้งแรก ในชื่องาน โจ เปิดหมวก ในวันที่ 2 ก.พ. 2557  บริเวณถนนทางเข้าห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามพารากอน ซึ่งรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการเปิดหมวก จะมอบให้กับผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม โดยไม่หักค่าใช้จ่าย รอบการแสดงมีทั้งหมด 2 รอบ ในเวลา 12.00 น. และ 14.00 น.

โจ จิรายุส วรรธนะสิน

ฟากของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักร้องนักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ ก็เตรียมจะขึ้นเวทีคอนเสิร์ตที่เวที กปปส. ปทุมวัน ในคืนวันเสาร์นี้ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เอง ได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องมาตลอดเช่นกัน

เช่นเดียวกับวง Dezember วงเมทัลหูรุนแรง แต่มีความชัดเจนทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้าที่พวกเขาทำเพลง Suck Sin ออกมาในห้วงเวลาที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรมจนเริ่มมีคนฟังนอกเหนือจากคอดนตรีเมทัลคอยติดตามผลงานของพวกเขาเพิ่มขึ้น กระทั่งมีโอกาสได้ขึ้นเวทีร่วมกับกลุ่ม กปปส. จนต่อยอดไปถึงผลงานเพลงใหม่ของพวกเขาคือ ยิ่งรัก...ยิ่งแย่ ที่ได้ โป่ง ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ หรือ โป่ง หินเหล็กไฟ มาร่วมงาน จนกลายเป็นเพลงที่ถูกตั้งคำถามว่ามีเนื้อหาแอบแฝงนัยหรือเสียดสีทางด้านการเมืองหรือไม่ ซึ่งก็สุดแท้แต่ผู้ฟังจะตีความ

นอกเหนือจากกิจกรรม ในส่วนของมุมมองคนดนตรีต่อต้านการเลือกตั้ง ล่าสุด เพชร มาร์ กรรมการตัดสินการประกวดจากเวที เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ก็ไม่หวั่นไหวกับกระแสใดๆ ที่อาจมีผลต่อรายการ เดอะสตาร์ 10 ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในคืนวันนี้ ย้ำชัดจุดยืนของตัวเองว่าในวันที่ 2 ก.พ.นี้ จะไม่ไปเลือกตั้งอย่างแน่นอน หากประเทศไทยยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขเพื่อให้เดินต่อไปข้างหน้าได้

"ก็ไปทำไมอ่ะ (ยิ้ม) ไปทำไม ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปยังไงดี? มันมีคำๆ หนึ่งนะครับ คือจริยธรรม ถ้าทุกคนคิดเรื่องจริยธรรมปุ๊บ มันจบ แค่นั้นเอง ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เหมือนเราทำงานบริษัท สมมติว่าพนักงานเราไม่ซื่อสัตย์หรืออะไรก็ตาม เราก็ต้องให้พนักงานออกอ่ะ ง่ายๆ นะครับ คำๆ เดียว อยากให้ทุกคนเอาคำว่าจริยธรรมเป็นที่ตั้ง ถ้ามีคำๆ นี้ทุกอย่างมันจบ"

เป็นอีกส่วนหนึ่งของความชัดเจนที่คนในแวดวงดนตรีสะท้อนปัญหาบ้านเมืองผ่านจุดยืนที่แน่วแน่ของพวกเขา