เมื่อภาษีคนโสด กระโดดออกมาเป็นเพลง

Jaytherabbitภาพประกอบจากเฟซบุค Jaytherabbit

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า แนวคิดการเก็บ ภาษีคนโสด จะเกิดขึ้นผ่านมุมมองของนักวิชาการอย่าง เทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จนกลายเป็นประเด็นร้อนทางสังคมในรอบวันที่ผ่านมา

ด้วยมุมวิเคราะห์ที่ว่า ไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน โครงสร้างประชากรไม่สมดุล และต้องเสียงบประมาณดูแลผู้สูงอายุจำนวนมาก ขณะที่ประชากรในวัยรุ่นวัยทำงานมีแนวโน้มเพิ่มต่ำลง และอัตราการเจริญพันธุ์ของไทยต่ำมาก 1 คู่สมรส มีลูกเพียง 1 คน ทั้งที่จริงต้องมีลูกขั้นต่ำ 2-3 คน ถึงจะเพียงพอต่อการทดแทนประชากรเดิมที่ตายไป สอดคล้องกับหนุ่มสาวสมัยใหม่จะเลือกทำงานเพื่อสร้างฐานะความมั่นคงในชีวิตมากกว่าการหาคู่แต่งงานสร้างครอบครัว ประกอบกับปัจจุบันค่าครองชีพและต้นทุนในการเลี้ยงดูบุตรสูงขึ้น ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล สินค้าข้าวของแพงขึ้น ครอบครัวส่วนใหญ่จึงเลือกมีลูกน้อย เพราะกลัวจะดูแลได้ไม่ดี ต่างจากอดีตในสังคมเกษตร ที่คนไทยมีลูกมาก เพราะต้นทุนการเลี้ยงดูไม่สูง

เพียงเท่านี้ก็กลายเป็นประเด็นให้คนโสด (และไม่โสด แต่ไม่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์นี้) ต้องกระโดดออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเผ็ดร้อน ก่อนที่ภาครัฐต้องรีบออกมายืนยันว่า เป็นแค่แนวคิดของนักวิชาการเพียงคนเดียว ซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

ปรากฏการณ์โสดสะเทือนไซเบอร์ที่โดดเด่นคือมุมมองของแฟนเพจยอดนิยม Jaytherabbit (facebook.com/jaytherabbitofficial) ที่อัพเดทสเตตัสเด่นๆ ในประเด็นนี้จนมีการนำไปแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคำคม "ต้องรีบมีผัว เพราะกลัวภาษี" ที่มีจำนวนคนกดไลค์เกือบห้าหมื่นครั้ง และมียอดแชร์กว่า 15,000 ครั้ง สร้าง viral อันเกิดจากอารมณ์ร่วมของชาวเน็ตกับประเด็นทางสังคมให้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องโฆษณาชวนเชื่อใดๆ

คลิกฟังเพลง  เมียไม่มี - Joey Boy

ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินสมัครเล่นที่นำเอาความสุนทรีย์มาตีแผ่ในประเด็นนี้อย่างน่าสนใจเช่นกัน

ปูเก๋าราดพริก ศิลปินสมัครเล่นที่มีกลุ่มแฟนติดตามจำนวนหนึ่งผ่านทางเฟซบุคและช่องบนยูทิวบ์ ก็หยิบเอาประเด็นนี้มาเขียนเป็นบทเพลง ภาษีคนโสด ออกมาให้ฟัง

"ขำๆ กันนะครับ อย่าซีเรียสมันเป็นแค่แนวคิดของคนๆ เดียวที่ยังไงก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง ที่สำคัญรัฐบาลเองก็ไม่ได้มีท่าทีเห็นด้วย­เลย เพียงแค่มีคนเสนอก็ว่ากันไปตามนั้น ฟังและชมเพื่อความบันเทิงครับอย่าดราม่าเล­ย" นี่คือสิ่งที่เจ้าของเพลงฝากบอกเอาไว้

แม้จะยังไม่มีฐานแฟนๆ ช่วยแชร์กันล้นหลามเหมือนกระต่ายเจย์ แต่บางท่อนของบทเพลง ภาษีคนโสด ก็ตรงกับความสึกหลายคนไม่น้อย ดังเช่นท่อนหนึ่งที่บอกว่า

"ไม่ใช่ว่าฉันนั้นอยากจะอยู่คนเดียวเปลี่ยวกาย แต่ให้ทำไงมันหาไม่ได้ ไม่มีเลยใครจะมาเคียงหมอน

เขาบอกรีบมีนะลูกคนแรกแล้วจะให้ตังค์ จริงเท็จเพียงใดไม่อาจรู้ดัง ที่เขาพูดปาวทางจอทีวี"

 

เมียเอื้ออาทร ทางรอดปลอดภาษีของชายโสด

เมื่อเรื่องภาษีคนโสดถูกตีตกไปกลายเป็นเรื่องโจ๊ก ก็ทำให้นึกถึงเพลงๆ หนึ่งซึ่งฟังแล้วขำๆ คันๆ แต่ก็สะท้อนหัวใจชายโสดไม่ต่างกันของ เจริญ วัตรุจีกฤต ศิลปินอิสระเจ้าของเพลง เมียเอื้ออาทร ที่ดูแลการผลิตโดย บานาน่า เรคคอร์ด โดยเพลงนี้แต่งขึ้นเมื่อสองปีก่อน ในสมัยที่นโยบายประชาสังคมเอื้ออาทรต่างๆ ผุดขึ้นจากความคิดของนักการเมือง เจริญ จึงเกิดแนวคิดอยากให้มีโครงการเมียเอื้ออาทรขึ้นมาบ้าง ซึ่งส่วนตัวแล้ว เจริญ ค่อนข้างจะนิยมในไอเดียบรรเจิดของนายชูวิทย์ กมลวิสิษฏ์ กับการสร้างกระแสและเรียกความสนใจจากประชาชน จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจการแต่งเพลงนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เจริญ ขอร้องผู้ฟังว่า อย่าได้นำไปโยงกับประเด็นทางการเมืองใดๆ เขาแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนฟังแล้วสนุกสนานก็เท่านั้น

แต่หากมีใครทะลึ่งรับลูกเรื่องภาษีคนโสดเข้าครม.จริงๆ โครงการเมียเอื้ออาทรก็อาจเป็นโครงการในฝันของท่านชายไร้คู่อีกมากมายก็เป็นได้

สุดท้ายแล้วคนโสดทั้งหลายก็ยังคงหายใจโล่งไปได้อีกเฮือก เมื่อไม่ต้องเป็นทุกข์ร้อนเรื่องถูกจัดเก็บภาษีเพิ่ม ส่วนจะโสดไปจนวันตายหรือจะไม่มีคนช่วยใช้เงินที่หามาได้ อันนี้ก็คงอยู่ที่ความพอใจจะโสดหรือเป็นเวรกรรมที่ทำให้ต้องเป็นคนโสดของใครของมันก็แล้วกัน