เปิดใจ ยอดคุณแม่แห่งวงการเพลง | Sanook Music

เปิดใจ ยอดคุณแม่แห่งวงการเพลง

เปิดใจ ยอดคุณแม่แห่งวงการเพลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในวันแม่แห่งชาติของทุกๆ ปี เรามีคุณแม่จากหลากหลายวงการที่ถูกนำมาเชิดชูเป็นแบบอย่าง หลายๆ คนเป็นหญิงเก่ง เป็นนักสู้ และเป็นเวิร์คกิ้ง วูแม่น ในเส้นทางของพวกเธอ 

และในวงการเพลงไทย เราก็มียอดคุณแม่ศิลปินที่นอกจากจะเก่งกาจสามารถในการเป็นนักร้องแล้ว ในบทบาทของความเป็นแม่ พวกเธอเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ หลายคนอาจสงสัยว่า เมื่อต้องรับงานนอกบ้านสร้างความสุขให้คนฟังมากมาย พวกเธอจัดสรรเวลาในการเลี้ยงลูกอย่างไรให้เติบโตและมีความสามารถได้ เราลองมาฟังคุณแม่ตัวอย่างแห่งวงการเพลงไทยเล่าถึงความเป็นแม่ตามสไตล์ของพวกเธอกันดู

แหวน ฐิติมา-ปันปัน

แหวน ฐิติมา สุตสุนทร

ร็อคเกอร์สาวดาวค้างฟ้าของวงการเพลงไทย คุณแม่ของสาวน้อยคนเก่ง ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ ใครต่อใครต่างอยากรู้ว่าเธอมีเคล็ดลับอะไรในการเลี้ยงลูกสาวคนสวยให้เก่งรอบด้าน ทั้งเรื่องกีฬาในฐานะนักยิมนาสติกลีลาทีมชาติ และวันนี้ก็กำลังขยับเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนักแสดงและนางแบบ แถมยังมีซิงเกิ้ลเพลงแรกของตัวเองอย่างเพลง "ค้นหา" ภายใต้สังกัดน้องใหม่ "FRONTAGE" ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

"ดีใจนะคะที่มีคนชื่นชมลูกเรา ปันปันเป็นเด็กเรียบร้อย ว่าง่าย เรียนหนังสือเก่ง เริ่มแรกตอนปันปันอายุ 4 ขวบ ชอบเรียนเต้นบัลเล่ต์ เราก็ส่งเสริมนะเพราะเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แล้วก็เรียนเปียโนด้วย พอโตขึ้นหน่อยเพื่อนที่ยิมก็ไปเรียนกีฬายิมนาสติกแทน ปันปันขอไปเรียนตามเพื่อนบ้าง จนโค้ชเห็นแววเลยให้เรียนจริงจัง พอส่งเข้าแข่งก็ได้เหรียญเรื่อย ๆ เริ่มจากเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ พอโตอายุ 16 ก็เป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ตอนนั้นภูมิใจมาก ที่ลูกสาวเราเก่ง

ถามว่าภูมิใจอะไรในตัวปันปัน ทั้งหมดที่เขาทำมา อย่างน้อยเขาไม่เคยทำอะไรให้เราหนักใจเลย แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะเพอร์เฟคท์ทุกอย่าง เขาเองก็มีส่วนเสียเล็กๆ น้อยๆ ของเขา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่โดยรวมแล้วเขาไม่เคยสร้างความหนักใจอะไรให้เรา โดยเฉพาะเรื่องเรียน เราไม่เคยบอกเลยว่า ปันปันไปท่องหนังสือนะ แต่เขาทำของเขาเอง โชคดีที่เขาเป็นเด็กตั้งใจ และแบ่งเวลาเป็น งานในวงการบันเทิงก็เหมือนกัน เราไม่ได้บังคับ เพราะของแบบนี้เราบังคับกันไม่ได้ แต่จะไปได้ยาวแค่ไหนให้เขาเป็นตัวกำหนดเอง เขาไม่ได้เป็นนักร้องที่มาจากการร้องเพลงจนเป็นอาชีพแบบเรา เขาเลยต้องได้รับการฝึกฝนจนพร้อมก่อน เขาผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก ไม่ใช่ว่าเป็นลูกแหวน แล้วจะได้สิทธิ์พิเศษเหนือคนอื่นๆ ถามว่าเขามีมาปรึกษาเรื่องร้องเพลงหรือเปล่า เขาไม่ต้องมาปรึกษา แต่เราจะบอกเขาเองเลย (หัวเราะ) อย่างเรื่องเพลงสิ่งสำคัญที่สุดคือฟีลลิ่ง ต่อให้ร้องดีอย่างไร แต่ถ้าไม่มีความรู้สึก ไม่มีอารมณ์ในเพลง เราก็ฟังไม่เพราะ แต่ถ้าเราร้องแล้วมีความรู้สึกทุกอย่างจะโอเค"

ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด

ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด

หลายๆ คนมองว่า ครอบครัว "เอี่ยมสุข" น่าจะเป็นครอบครัวอารมณ์ดีเพราะทั้งพ่อและแม่ต่างก็เป็นสีสันของวงการบันเทิง โดยเฉพาะคุณแม่ ตั๊ก ศิริพร ที่ครบเครื่องในเรื่องการร้องเพลงชนิดหาตัวจับยากในยุคของ ตั๊ก ลีลา และเมื่อวันนี้ลูกชายคนเดียวของบ้าน น้องภู ภูสิษฐ์ เอี่ยมสุข ก็ขยับมาเป็นดาราเด็กที่ดูแล้วมีแววจะไปได้ไกล คุณแม่ตั๊กมีวิธีแนะนำลูกอย่างไรกับการเข้าวงการตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้

"ตั้งแต่น้องภูไปออกรายการ ราตรีสโมสร เขาก็ฉายแววของเขาเอง พี่ไม่เคยสอนอะไรเลยค่ะ ที่เข้ามาในวงการก็เพราะตัวเขาเอง พ่อแม่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ช่วงหนึ่งที่เขามีงานเข้ามาเยอะพี่ก็สงสารลูกมาก แต่ตอนนี้เราก็เอาเรื่องเรียนมาเป็นที่หนึ่งก่อนไงคะ แต่ไม่เป็นไรอดใจไว้ พี่เชื่อว่าเด็กที่จะเกิดมาเป็นดาวเขาก็เป็นของเขาเอง

ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสร้างความลำบากใจให้พี่เลยตั้งแต่หย่านม พอบอก 'ภู เดี๋ยวภูเลิกกินนมได้แล้วนะลูกนะ' ก็ ครับแม่ คำเดียว ไม่เคยมางอแงอีกเลย (หัวเราะ) พอเขามาเล่นละครพี่ก็ไม่ได้บังคับ เล่นได้ไหมลูก เล่นไม่ได้ก็ไม่ต้องเล่นก็ได้ แต่เขาจะ 'ไม่...พี่เล่นๆ' แต่แม่ไม่สอนนะ ภูต้องไปเรียนเองนะ ภูรับปากแล้วต้องทำให้ได้นะ แต่ไม่ว่าภูจะทำอะไรก็แล้วแต่ ขอว่าอย่าทิ้งการเรียนเด็ดขาด แม่ขอ โตขึ้นลูกอยากจะไปอาชีพอะไรแล้วแต่ลูกไม่บังคับ แต่ยังไงก็ต้องเรียนให้แม่ ทุกวันนี้งานอะไรของเขาเงินที่เขาทำได้มาพี่จะไม่ไปยุ่งเลย พี่ก็เก็บเอาไว้ให้เขาหมดเลย เขาจะได้รู้ว่าตั้งแต่เริ่มทำงานอายุแค่นี้ๆ จนมาถึงอายุเท่านี้ๆ ลูกเก็บเงินได้แล้ว"

นิโคล เทริโอ

นิโคล เทริโอ

คุณแม่หน้าแบ๊วในบทบาทของซิงเกิ้ลมัมฟังดูน่าจะเป็นเรื่องน่าเหนื่อยสำหรับเธอคนนี้ แต่เธอก็พิสูจน์แล้วว่าเธอก็รับมือได้เป็นอย่างดีทั้งเรื่องงานและการเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ทิกเกอร์ ให้เป็นเด็กเรียบร้อยและเข้ากับทุกคนได้

"กี้เลี้ยงลูกแบบไทยผสมฝรั่ง แต่ยังไงเราก็ต้องมีความชัดเจนเพราะเราเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน แต่ทิกเกอร์เขาจะมีความเป็นไทยสูง ถ้าเจอใครกี้ให้ไหว้หมด ให้พูดครับตลอด ให้มีสัมมาคารวะ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พูดไทยให้มีหางเสียง งานไหนที่ใช้เวลาไม่นานเราจะเอาทิกเกอร์ไปด้วยตลอด ให้เขาเข้าใจและรู้ถึงการทำงานของเรา อธิบายไปด้วยว่าตอนนี้คุณแม่ทำอะไร ทำไมคุณแม่ต้องไปทำงาน ทำเพื่อลูกนะเราจะได้มีเงินไปเที่ยว ไปกินของอร่อยๆ กัน แล้วเป็นการสอนให้เข้าสังคมไปในตัวด้วยช่วยเพิ่มอีคิวให้เขา

คืออยากบอกผู้หญิงทุกคนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าลืมนึกถึงลูกก่อนอันดับแรก โดยเฉพาะเรื่องการหย่าร้างของพ่อแม่พยายามพูดคุยและจากกันด้วยดี อย่าให้ลูกจดจำภาพที่แย่ๆ อย่างตอนนี้กี้ก็ยังไปๆ มาๆ กับทางบ้านพี่แมวในบางครั้ง เพราะอย่างไรลูกก็ต้องได้เจอพ่อของเขา อย่าไปขัดขวางเพียงแค่อธิบายให้เข้าใจ กี้ยังโชคดีที่เราสามารถจัดการตรงนี้ได้"  

นันทิดา แก้วบัวสาย

นันทิดา แก้วบัวสาย

ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณแม่ดีว่า ตู่ นันทิดา กลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของประเด็นข่าวร้อนระหว่างสามี ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และดาราสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แต่นั่นไม่ได้ทำให้สังคมมองภาพความเป็นยอดคุณแม่ของลูกสาวคนเดียว เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภาพแม่ลูกตัวติดกันไม่ว่าจะช้อปปิ้งหรือถ่ายแบบทำกิจกรรมร่วมกัน กลายเป็นภาพคุ้นชินและทำให้หลายคนยกให้เธอเป็น ซูเปอร์มัม ที่เลี้ยงลูกสาวให้เป็นคนเก่ง เพอร์เฟคท์รอบด้าน พร้อมๆ กับชื่นชมในการวางตัวจากการรับมือกับข่าวต่างๆ ได้อย่างสวยงามเสมอ รวมทั้งประโยคเด็ดแห่งปีที่ ตู่ นันทิดา ฝากไว้ให้กับลูกสาวคนเดียวของเธอ จึงถูกนำไปแชร์ต่อๆ กัน กลายเป็นคำคมยอดฮิตที่ให้ข้อคิดกับทุกบ้านได้เป็นอย่างดี

"ถูกใจ กับ ถูกต้อง มันไม่เหมือนกัน สิ่งที่ถูกต้อง ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกใจ วันนี้ ไม่ถูกใจ ไม่เป็นไร เพราะเราเคยเป็นคนที่ถูกใจ และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ลูกจงภูมิใจว่าลูกคือสิ่งที่ถูกต้อง"

"ถามว่าสนับสนุนมาทางนี้โดยตรงไหม ไม่นะ เราให้ลูกเรียน บัลเล่ต์ ฮิพฮอพ เปียโน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรี ที่เขาชอบที่สุดคือขี่ม้ากับเต้นฮิพฮอพ จากสิ่งตรงนี้มั้งกับสิ่งที่ใกล้ตัวพี่ทำให้เขาชอบโดยไม่รู้ตัว จากเมื่อก่อนที่เขาไม่เคยสนใจตรงนี้ ในขณะเดียวกันเขาก็อยากให้การเรียนดีด้วย ซึ่งเขาเรียนได้ เอ กับเอ บวกทุกวิชา จนในบ้านเรียกว่าเด็กเกรดเอ พี่ก็เลยถามว่าถ้าคุณแม่จะสนับสนุนให้น้องเพลงไปเรียนร้องเพลงล่ะลูก ไปเมืองนอกเลย เขาก็บอกว่าเสียดายการเรียน ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ดี 2 อย่างในเวลาเดียวกันหรือเปล่า ฉะนั้นเราต้องหาแล้วว่าเราชอบอะไร เขาก็บอกว่าเลือกเรียน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook