ซี-มัฑณาวี หวั่นถูกผ่าสมองซ้ำอีกครั้ง

ดูเหมือนอาการยังไม่หายขาดสำหรับ ซี-มัฑณาวี คีแนน ที่ก่อนหน้านี้ได้ไปผ่าตัดสมองมาเนื่องจากถูกรถชนอย่างจัง แต่หลังจากพักฟื้นที่อังกฤษได้พักใหญ่ๆ นักร้องสาวหล่อก็กลับมาโหมงานเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเจ้าตัวก็เคยบอกว่ามันมีผลกระทบทำให้ความจำสั้นแต่ก็พยายามทำงานปกติ แต่ดูเหมือนพักหลังนี้ก็เริ่มมีอาการปวดหัวบ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า ....ยังไม่ได้ไปหาหมอครับ ตอนนี้กำลังนัดหมออยู่ ก็พยายามรอว่างพร้อมกัน



ดูเหมือนทิ้งระยะค่อนข้างจะนาน
.........ค่อนข้างที่จะนานเพราะซีไปพักฟื้นที่อังกฤษแล้วกลับมาทำงานเลย แล้วหมอเขาก็เคสเยอะ ก็เลยยากที่เวลาจะตรงกันครับ ก็มีคุยทางโทรศัพท์อยู่บ่อยครับแล้วหมอเขาก็ให้ไปตรวจ ก็เลยต้องหาเวลานัดซึ่งอันนี้ยากมากครับ

ทำไมไม่คุยกับทางบริษัทว่าของลาไปรักษาก่อน
........คือทางบริษัทก็ทราบแหละแต่จะเป็นซีเองที่โทรตาม แต่ตอนนี้ซีชักรู้สึกว่ามันชักจะนานไปแล้วก็เลยบอกกับทางบริษัทว่าช่วยตามให้หน่อย คือซีเริ่มที่จะคุยกับบริษัทแล้วว่าซีเป็นแบบนี้นะ



เห็นบอกว่าก่อนหน้านี้ความจำปลาทอง
........ก็นิดหนึ่งครับ เป็นปลาทอง(หัวเราะ) แต่ว่าซีจะค่อยๆ ปรับตัวเอง คือพอเรารู้ว่าเราเป็นแบบนี้เราก็จะต้องค่อยๆ ปรับ

อาการเป็นยังไง เจ็บมากแค่ไหน
.......มันไม่ได้เจ็บครับ แต่เมื่อสามวันที่แล้วตื่นมาปวดหัวมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทำงานหนักหรืออะไร ก็เลยกินยาระงับความปวดเอาไว้

กินยาเองแบบนี้ไม่กลัวผลข้างเคียงเหรอ
.....กลัวแน่นอนครับ ถ้าเกิดไปหาหมอแล้วต้องผ่าใหม่ขึ้นมาแล้วเราจะทำยังไง มันก็ต้องเสียเวลาอีกครึ่งปีเพื่อที่จะดูแลสุขภาพตัวเอง แต่เปอร์เซ็นที่จะผ่าใหม่นี่ซีก็ไม่ทราบนะ คงต้องถามหมอ กังวลเรื่องนี้มากที่สุดแหละครับ เพราะเราเองก็อยากจะเจอหมอ อยากจะให้เขาตรวจอีกที



เคยคิดที่จะเปลี่ยนหมอบ้างหรือเปล่า
.....ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนครับ เพราะหมอคนนี้เขาผ่าให้เราตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจะรู้อาการทั้งหมด หมอเขาก็โอเคแหละครับแต่ซีไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร อีกอย่างหนึ่งเขาไม่ได้เห็นสภาพเราด้วย

แล้วมันมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราไหม
......ก็เหมือนเดิมแหละครับ ปกติ คือไม่ได้แย่มาก ซีก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ แล้วช่วงนี้บริษัทเขาก็ค่อยๆ เบรกงานทีละนิดเพราะกำลังจะทำเพลงใหม่ประมาณเมษายนครับ ก็คงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรเยอะแต่มันจะกระทบสุขภาพซีมากกว่า(หัวเราะ)

พอจะบอกได้ไหมว่าจะไปหาหมอตอนไหน
......ก็คงจะเดือนนี้แหละครับ เดี๋ยวถ้ารู้ว่าผลเป็นยังไงแล้วจะมาบอกอีกทีว่าสาเหตุมันเป็นเพราะอะไร