นักร้องสาวหน้าใหม่ Carly Rae Jepsen กระแสฮอตพุ่งทะยานชาร์ท
Call Me Maybe ซิงเกิ้ลสุดฮิตของศิลปินสาวหน้าใหม่ Carly Rae Jepsen และ Payphone ของวงสุดฮอต Maroon 5 ติดอันดับ #1 และ #2 จากการจัดอันดับเพลงฮิตประจำฤดูร้อนโดยบิลบอร์ด Billboard's Songs of the Summer Chart ล่าสุด Call Me Maybe มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกมากกว่า 9.1 ล้านโหลด และยังคงความแรงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับซิงเกิ้ลที่สอง Good Time ที่เป็นการทำงานร่วมกับ Owl City ก็ยังคงไต่ชาร์ทขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่งอัลบั้มของคาร์ลี่ เรย์ เจ็ปเซ็น Kiss มีกำหนดวางแผงในประเทศอเมริกาวันที่ 17 กันยายนนี้
ท่ามกลางกระแสของวัฒนธรรมเพลงป๊อบที่ร้อนแรงอย่างมากในปีนี้ เพลง Call Me Maybe ซิงเกิ้ลแรกของ คาร์ลี่ เรย์ เจ็ปเซน ศิลปินสาวหน้าใหม่จากแคนาดาก็ได้ถูกเลือกให้เป็น เพลงแห่งฤดูร้อนโดยบิลบอร์ด ซึ่งเพลงนี้ติดอันดับในชาร์ท Billboard Hot 100 ยาวนานถึง 9 สัปดาห์ หลังจากที่เพื่อนศิลปินที่มาจากแคนาดาเช่นเดียวกันอย่าง Justin Bieber ได้เปิดเผยถึงความชอบของเขาที่มีต่อเพลงนี้ให้กับแฟนๆที่ติดตามทวิตเตอร์ของเขากว่า 20 ล้านคน
ความนิยมของเพลงนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกระแสในยูทูปที่มีคัฟเวอร์เวอร์ชั่นโดยทีมเบสบอลชายของมหาวิทยาลัยHarvard ที่ทำคลิปล้อเลียนเพลงนี้ โดยมีผู้ชมสูงถึง 16 ล้านวิว รวมไปถึงคลิปตัดต่อเสียงปราศัยของประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ที่ทำกันเล่นๆ แต่มีผู้ชมสูงถึง 25 ล้านวิว
จากการสำรวจของ Nielsen SoundScan, เพลง Call Me Maybe มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 5.5 ล้านโหลดตั้งแต่วันเปิดตัวและมีผู้ฟังเพลงนี้ สูงถึง 1.8 พันล้านคนจาก Billboard’s Radio Chart ตามรายงานของ Nielsen BDS (Nielson Broadcast Data Systems) Billboard's Songs of the Summer Chart การจัดอันดับ Billboard’s Songs of the Summer นั้น เป็นการจัดอันดับเพลงที่ฮิตที่สุด โดยวัดจากอันดับเพลงรายสัปดาห์จาก Billboard Hot 100 Chart ตั้งแต่วันระลึกถึงทหารผ่านศึก (28 พ.ค 2012) จนถึงวันแรงงานของสหรัฐอเมริกา (3 ก.ย. 2012)
Carly Rae Jepsen เป็นศิลปินคนแรกที่มีเพลงฮิตติดอันดับสูงสุดของเพลงแห่งฤดูร้อน ในชาร์ท Hot 100 นับตั้งแต่ Katy Perry เคยครองตำแหน่งนี้ในปี 2008 จากเพลง I Kissed a Girl จนทำให้เพอรรี่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูร้อนไปทันที ส่วนเพลง Waking Up in Vegas ก็ติดอันดับ 10 ในฤดูร้อนปี 2009 ต่อมาเพลง California Gurls featuring Snoop Dogg ก็คว้าอันดับ 1 ในฤดูร้อนปี 2010 ส่วนปีที่ผ่านมา Party Rock Anthem featuring Lauren Bennett and GoonRock ของ LMFAO ก็คว้าตำแหน่งไปได้ โดยที่ เพลงของ Katy Perry ก็ติดอันดับถึงสองอันดับด้วยกัน Last Friday Night (T.G.I.F.) (No. 5) and "E.T., featuring Kanye West (No. 9) ในปี 2012 เพลงของ Katy Perry ติดอันดับ เพลงแห่งฤดูร้อนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากเพลง Wide Awake ที่ครองชาร์ทในอันดับที่ 4
Billboard's Songs of the Summer 1985-2011 ก่อนหน้า Carly Rae Jepsen ที่เป็นผู้ชนะในปีนี้ และ Katy Perry ในปี 2008 มีศิลปินหญิงเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลอันดับ 1 เพลงแห่งฤดูร้อนของชาร์ท Hot 100 (จากสถิติเพลงแห่งฤดูร้อนในปี 1985 เป็นต้นมา) ซึ่งก็คือ Christina Aguilera กับเพลง Genie in a Bottle ในปี 1999 และ Mariah Carey เพลง Vision of Love ในปี 1990 ระหว่างเพลง Call Me Maybe ของ Carly Rae Jepsen และ Wide Awake ของ Katy Perry นั้นเพลง Payphone ของ Maroon 5 featuring Wiz Khaifa ก็รั้งอันดับ 2 ของเพลงแห่งฤดูร้อน หลังจากที่ครองชาร์ทสูงถึงอันดับ 2 นานกว่า 6 สัปดาห์ บนชาร์ท Hot 100 ส่วนเพลง Somebody That I Used to Know ของ Gotye's featuring Kimbra ติดชาร์ทในอันดับที่ 3 หลังจากที่ติดชาร์ท Hot 100 นานถึง 8 สัปดาห์และอยู่คงอันดับ Top 10 ตลอดเดือนสิงหาคม เพลง Lights ของ Ellie Goulding ปิดท้ายฤดูกาลที่อันดับ 5 โดยขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 2 ใน Hot 100
อันดับที่ 6 เป็นของ Rihanna กับเพลง Where Have You Been ตามมาด้วยเพลงของ Fun. We Are Young featuring Janelle Monae ในอันดับ 7; David Guetta เพลง Titanium,featuring Sia อยู่ที่อันดับ 8 ; Nicki Minaj's Starships ติดอับดับ 9 และ Flo Rida's เพลง Whistle รั้งท้ายที่อันดับ 10 จากทั้ง 10 อันดับ Carly Rae Jepsen ไม่ใช่ศิลปินใหม่เพียงคนเดียวที่สามารถติดอันดับในบิลบอร์ทชาร์ตได้ แต่ Gotye, Goulding และ Fun ก็พากันก้าวเท้าเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกของเพลงแห่งฤดูร้อนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าเทียบกับปีที่แล้ว มีศิลปินหน้าใหม่เพียงคนเดียวที่มีเพลงติดอันดับเพลงแห่งฤดูร้อนนั่นก็คือ Hot Chelle Rae กับเพลง Tonight Tonight ที่ติดชาร์ทในอันดับ 10
ทั้งนี้ยังไม่เคยมีเพลงจากศิลปินหน้าใหม่มากถึง4คนที่ทำผลงานได้เข้าชาร์ตเพลงแห่งฤดูร้อนเลยตั้งแต่ปี2006 หลังจากที่Gnarls Barkley เพลง Crazy, Cassie เพลง Me & U, Yung Joc เพลง It's Goin' Down และ The Fray เพลง Over My Head (Cable Car) ได้สร้างผลงานไว้ในปีเดียวกันนั้น และได้อันดับ 3,4,5และ 9ตามลำดับ บนชาร์ท Hot 100
ท่ามกลางกระแสของวัฒนธรรมเพลงป๊อบที่ร้อนแรงอย่างมากในปีนี้ เพลง Call Me Maybe ซิงเกิ้ลแรกของ คาร์ลี่ เรย์ เจ็ปเซน ศิลปินสาวหน้าใหม่จากแคนาดาก็ได้ถูกเลือกให้เป็น เพลงแห่งฤดูร้อนโดยบิลบอร์ด ซึ่งเพลงนี้ติดอันดับในชาร์ท Billboard Hot 100 ยาวนานถึง 9 สัปดาห์ หลังจากที่เพื่อนศิลปินที่มาจากแคนาดาเช่นเดียวกันอย่าง Justin Bieber ได้เปิดเผยถึงความชอบของเขาที่มีต่อเพลงนี้ให้กับแฟนๆที่ติดตามทวิตเตอร์ของเขากว่า 20 ล้านคน
ความนิยมของเพลงนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกระแสในยูทูปที่มีคัฟเวอร์เวอร์ชั่นโดยทีมเบสบอลชายของมหาวิทยาลัยHarvard ที่ทำคลิปล้อเลียนเพลงนี้ โดยมีผู้ชมสูงถึง 16 ล้านวิว รวมไปถึงคลิปตัดต่อเสียงปราศัยของประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ที่ทำกันเล่นๆ แต่มีผู้ชมสูงถึง 25 ล้านวิว
จากการสำรวจของ Nielsen SoundScan, เพลง Call Me Maybe มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 5.5 ล้านโหลดตั้งแต่วันเปิดตัวและมีผู้ฟังเพลงนี้ สูงถึง 1.8 พันล้านคนจาก Billboard’s Radio Chart ตามรายงานของ Nielsen BDS (Nielson Broadcast Data Systems) Billboard's Songs of the Summer Chart การจัดอันดับ Billboard’s Songs of the Summer นั้น เป็นการจัดอันดับเพลงที่ฮิตที่สุด โดยวัดจากอันดับเพลงรายสัปดาห์จาก Billboard Hot 100 Chart ตั้งแต่วันระลึกถึงทหารผ่านศึก (28 พ.ค 2012) จนถึงวันแรงงานของสหรัฐอเมริกา (3 ก.ย. 2012)
Carly Rae Jepsen เป็นศิลปินคนแรกที่มีเพลงฮิตติดอันดับสูงสุดของเพลงแห่งฤดูร้อน ในชาร์ท Hot 100 นับตั้งแต่ Katy Perry เคยครองตำแหน่งนี้ในปี 2008 จากเพลง I Kissed a Girl จนทำให้เพอรรี่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูร้อนไปทันที ส่วนเพลง Waking Up in Vegas ก็ติดอันดับ 10 ในฤดูร้อนปี 2009 ต่อมาเพลง California Gurls featuring Snoop Dogg ก็คว้าอันดับ 1 ในฤดูร้อนปี 2010 ส่วนปีที่ผ่านมา Party Rock Anthem featuring Lauren Bennett and GoonRock ของ LMFAO ก็คว้าตำแหน่งไปได้ โดยที่ เพลงของ Katy Perry ก็ติดอันดับถึงสองอันดับด้วยกัน Last Friday Night (T.G.I.F.) (No. 5) and "E.T., featuring Kanye West (No. 9) ในปี 2012 เพลงของ Katy Perry ติดอันดับ เพลงแห่งฤดูร้อนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากเพลง Wide Awake ที่ครองชาร์ทในอันดับที่ 4
Billboard's Songs of the Summer 1985-2011 ก่อนหน้า Carly Rae Jepsen ที่เป็นผู้ชนะในปีนี้ และ Katy Perry ในปี 2008 มีศิลปินหญิงเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลอันดับ 1 เพลงแห่งฤดูร้อนของชาร์ท Hot 100 (จากสถิติเพลงแห่งฤดูร้อนในปี 1985 เป็นต้นมา) ซึ่งก็คือ Christina Aguilera กับเพลง Genie in a Bottle ในปี 1999 และ Mariah Carey เพลง Vision of Love ในปี 1990 ระหว่างเพลง Call Me Maybe ของ Carly Rae Jepsen และ Wide Awake ของ Katy Perry นั้นเพลง Payphone ของ Maroon 5 featuring Wiz Khaifa ก็รั้งอันดับ 2 ของเพลงแห่งฤดูร้อน หลังจากที่ครองชาร์ทสูงถึงอันดับ 2 นานกว่า 6 สัปดาห์ บนชาร์ท Hot 100 ส่วนเพลง Somebody That I Used to Know ของ Gotye's featuring Kimbra ติดชาร์ทในอันดับที่ 3 หลังจากที่ติดชาร์ท Hot 100 นานถึง 8 สัปดาห์และอยู่คงอันดับ Top 10 ตลอดเดือนสิงหาคม เพลง Lights ของ Ellie Goulding ปิดท้ายฤดูกาลที่อันดับ 5 โดยขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 2 ใน Hot 100
อันดับที่ 6 เป็นของ Rihanna กับเพลง Where Have You Been ตามมาด้วยเพลงของ Fun. We Are Young featuring Janelle Monae ในอันดับ 7; David Guetta เพลง Titanium,featuring Sia อยู่ที่อันดับ 8 ; Nicki Minaj's Starships ติดอับดับ 9 และ Flo Rida's เพลง Whistle รั้งท้ายที่อันดับ 10 จากทั้ง 10 อันดับ Carly Rae Jepsen ไม่ใช่ศิลปินใหม่เพียงคนเดียวที่สามารถติดอันดับในบิลบอร์ทชาร์ตได้ แต่ Gotye, Goulding และ Fun ก็พากันก้าวเท้าเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกของเพลงแห่งฤดูร้อนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าเทียบกับปีที่แล้ว มีศิลปินหน้าใหม่เพียงคนเดียวที่มีเพลงติดอันดับเพลงแห่งฤดูร้อนนั่นก็คือ Hot Chelle Rae กับเพลง Tonight Tonight ที่ติดชาร์ทในอันดับ 10
ทั้งนี้ยังไม่เคยมีเพลงจากศิลปินหน้าใหม่มากถึง4คนที่ทำผลงานได้เข้าชาร์ตเพลงแห่งฤดูร้อนเลยตั้งแต่ปี2006 หลังจากที่Gnarls Barkley เพลง Crazy, Cassie เพลง Me & U, Yung Joc เพลง It's Goin' Down และ The Fray เพลง Over My Head (Cable Car) ได้สร้างผลงานไว้ในปีเดียวกันนั้น และได้อันดับ 3,4,5และ 9ตามลำดับ บนชาร์ท Hot 100
.jpg?ip/crop/w350h197/q80/jpg)
