บอล สครับ ฉีกแนวนั่งแท่นบริหารปั้นน้องใหม่ | Sanook Music

บอล สครับ ฉีกแนวนั่งแท่นบริหารปั้นน้องใหม่

บอล สครับ ฉีกแนวนั่งแท่นบริหารปั้นน้องใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จัดได้ว่าเป็นนักดนตรีขวัญใจเด็กแนวรุ่นใหม่ ๆเลยทีเดียว สำหรับ บอล-ต่อพงศ์ จันทบุบผา หนึ่งในสมาชิกวงสครับ หรือที่ทุกคนคุ้นเคยชื่อว่า บอล สครับ มาวันนี้หนุ่มคนนี้ได้ผันตัวเองมาทำงานอีกแบบหนึ่ง เพราะโดดมานั่งแท่นเป็นผู้บริหาร ดูแลค่ายเพลงน้องใหม่อย่าง บีลีฟ เรคคอร์ด เรียบร้อยแล้ว

วันนี้เคลียร์คิวด่วน คว้าตัวหนุ่มบอลมาเปิดใจทุกเรื่อง เพื่อเอาใจแฟน ๆ กันเลย



เริ่มคำถามแรก มาบริหาร ค่ายบีลีฟ เรค คอร์ด ได้อย่างไร?

.......อย่าใช้คำว่าผู้บริหารเลยครับ ยังเขินอยู่ ผม ทำงานที่ บีลีฟ เรคคอร์ด ก็จริง โดยตำแหน่งแล้วจะเป็น โปรดัก แมนเนเจอร์ ซึ่งผมก็ไม่ได้เก่งเรื่องบริหารนะ จะ มีทีมงานช่วย ๆ กัน ความถนัดของผม จริง ๆ ที่ทำเลย คือ การดูแลและคัดเลือกศิลปิน ผมจะดูว่าวงไหนมีความสามารถ หรือมีตัวงานที่น่าสนใจ ด้วยความที่ผมคลุกคลีอยู่กับตรงนี้มานาน ก็จะคุยกันง่าย ให้เอาเพลงมาคุยกัน จะเป็นแนวนี้มากกว่าครับ

อยู่ตรงจุดนี้มานานหรือยัง?

......อยู่กับค่ายนี้เป็นปีที่สองเข้าสามแล้วก็ได้ บีลีฟ เรคคอร์ด เป็นบริษัทลูกของ ค่ายบัตเตอร์ฟลาย เรคคอร์ด ที่ปัจจุบันกลับไปดูแลในเรื่องของการรับผลิตงานให้กับโปรดักชั่นต่าง ๆ และให้เช่าห้องบันทึกเสียง โดยผู้ใหญ่และทางทีมของผมเชื่อว่าวงการดนตรียังมีโอกาสที่จะสนุกกับมันอยู่ เลยเป็นที่มาของ บีลีฟ เรคคอร์ด

เคยเป็นศิลปินมาก่อน พอต้องมาดูแลค่ายเพลงเองเป็นอย่างไรบ้าง?

.......มันก็มีทั้งยากและง่ายครับ ความยากมันอยู่ตรงที่เราเป็นค่ายใหม่ ศิลปินในค่าย เราเป็นน้อง ใหม่ การที่จะดูแลศิลปินของเราให้ได้โปรโมต ในสื่อต่าง ๆ ก็ค่อนข้างมีข้อจำกัด ซึ่งตรงจุดนี้เราเข้าใจ เลยพยายามทำกันเต็มที่นะ ส่วนเรื่องง่ายก็คงต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้ครับ เด็กวัยรุ่นส่วนมาก จะคลุกคลีกับอินเทอร์เน็ต ใช้อินเทอร์เน็ตในการฟังเพลง เราจะ โปรโมตผ่านช่องทางนี้ในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็น ไฮไฟว์, เฟสบุ๊ก หรือเว็บไซต์เพื่อนบ้านของเราอย่าง ยูทูเพลย์ รวมไปถึงคลื่นวิทยุที่ปัจจุบันก็เปิดโอกาสให้กับวงดนตรีแบบนี้มากขึ้น ซึ่งมันช่วยได้มาก แต่เราจะบอกศิลปินของเราทุกคนให้เชื่อมั่นในงานของเรา ตั้งใจและอดทน ไปเล่นทุกที่ที่ไปได้ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา ประโยคนี้จะอยู่ในความคิดของศิลปินเราทุกคนอยู่แล้ว

คนส่วนมากจะมองว่าบอล เอาชื่อ สครับ มาเป็นใบเบิกทางในการดูแลค่ายเพลงนี้จริงรึเปล่า?

.......ตรงจุดนี้ก็คงห้ามความคิดกันไม่ได้นะครับ แต่ผมทำงานทั้ง 2 อย่าง เพราะความชอบ เวลาเป็นนักดนตรี เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่น ได้ยินคนร้องเพลงของเรา การที่ผมมาดูแล บีลีฟ เรคคอร์ด ยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับดนตรีอยู่ดี เพียงแต่ผมไม่ ได้เป็นคนเล่น แต่คนที่ผมดูแล เขาได้เล่น ได้ทำใน สิ่งที่เขารัก ก่อนที่ผมจะเป็นสครับ ก็มีความฝันเหมือนเด็กที่รักดนตรีทุกคนนั่นแหละ ผมอยากให้น้อง ๆ รุ่นใหม่ที่มีความฝัน มีความตั้งใจได้ทำใน สิ่งที่เขาเชื่อ แล้วเรา ก็ช่วยดูในเรื่องของการ ผลิตและพาเขาไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพราะสครับ โตมาด้วยวิธีนี้ พอมีโอกาสมาทำตรงนี้ เราอยากสานต่อเพื่อให้บีลีฟ เรคคอร์ดเป็นพื้นที่หนึ่งที่ให้โอกาสกับ น้อง ๆ รุ่นใหม่ด้วย ซึ่งทาง เมื่อย (นักร้องนำ สครับ) ก็เข้าใจตรงนี้ดี และเห็นด้วยกับที่เราทำอยู่

มีปัญหากับทางค่ายโซนี่มิวสิคที่ดูแล สครับ ไหม?

.......ทั้ง 2 บ้าน มีความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดีครับ พึ่งพาอาศัยกัน เราเรียนรู้ซึ่งกันและกันไม่ใช่เป็นแค่คู่แข่งกันอย่างเดียว ผมและพนักงานบางคนเคยทำงานที่นั่นมาก่อน จึงค่อนข้างจะคุ้นเคยกันดี อย่างที่ผมบอก ผมไม่ได้ใช้ชื่อ สครับ เป็นใบเบิกทาง แต่ถ้าสครับกับบีลีฟ เรคคอร์ด มันโตขึ้นไปพร้อม ๆ กัน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ

แบ่งเวลาในการทำงานอย่างไร?

......ยอมรับว่าค่อนข้างหนักนะ ทุกวันนี้งานของ สครับ ส่วนมากจะเป็นงานโชว์ตอนกลางคืนหรือต่างจังหวัด ตอนเช้าผมต้องเข้ามาทำงานที่ บีลีฟ เรคคอร์ด ซึ่งต้องพยายามจัดการเวลาให้ดี เพื่อไม่ให้รบกวนกัน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีชดเชยเอา ซึ่งทางค่ายพยายามช่วยเหลือเรื่องการจัดเวลาให้ แต่ตอนนี้วันธรรมดาผมจะอยู่ที่บีลีฟทุกวันครับ

แตกต่างกันไหมกับหน้าที่นักดนตรี แล้วยังมาเป็นคนปลุกปั้นศิลปินหน้าใหม่อีก?

......มันต้องแตกต่างอยู่แล้ว การที่เราเป็นนักดนตรีเราทำงานเพลงของเราให้ดีที่สุด ดูเฉพาะวงของเรา ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของการตลาดหรือการบริหาร แต่พอมาดูแลค่ายเพลง เราต้องดูแลศิลปินทุกคน ต้องวางแผนว่าทำอย่างไรให้เขาเป็นที่รู้จัก ให้เพลงของเขาฮิตให้ได้ รวมถึงยังต้องดูแลเรื่องการเงินอีก ยอมรับเลยล่ะครับ ว่ายากกว่าการเป็นนักดนตรีมาก แต่ในตำแหน่งนี้มันก็มีข้อง่ายอยู่บ้าง เพราะก่อนหน้านี้ผมทำหน้าที่คัดสรรศิลปินอยู่ในค่ายเพลงอื่น ๆ มาก่อน จะอยู่ในแวดวงดนตรีมาตลอด ซึ่งเนื้องานมันก็จะใกล้ ๆ กัน เลยจะง่ายตรงจุดนี้ล่ะครับ

ในการคัดเลือกศิลปิน ได้ใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐานหรือเปล่า?

.....มันก็มีบ้างที่เราอาจจะชอบในแบบที่เราฟังหรือทำอยู่ แต่จะต้องมีมาตรฐานในเรื่องอื่นด้วย อย่างคุณภาพของงาน ความเป็นตัวตน วิธีคิดหรือทัศนคติของเขา แต่ถ้าเป็นเรื่องของแนวเพลง แต่ละคนจะมีแนวดนตรีที่ถนัดหรือชอบต่างกัน ทุกคนก็จะมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไป เราต้องเปิดใจฟัง เปิดใจที่จะยอมรับ ผมจะไม่พยายามไปเปลี่ยนในสิ่งที่เค้าเป็น อยากให้เขาโตในแบบที่เขาชอบ เพราะถ้าเอาตัวเองไปเป็นมาตรฐานทั้งหมด ก็คงทำงานกันไม่ได้

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?

......ขอฝาก บีลีฟ เรคคอร์ด ไว้กับทุกคนด้วยแล้วกันครับ ตอนนี้เรามีศิลปินน้องใหม่อย่าง 25 hours (ทเวนตี้ไฟว์ อาวเวอร์ส) ที่เปิดตัวกันไปแล้ว และจะมีอีกหนึ่งศิลปินที่จะตามมาชื่อว่า ewery (อีเวอรี่) ยังไงก็ฝากน้องใหม่ไว้ด้วย ขอบคุณครับ

นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของหนุ่มคนนี้ แม้จะไม่ใช่หนุ่มมาดนักบริหาร แต่ก็มีหัวใจเป็นศิลปินเต็มร้อย!!.



ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook