3 หนุ่ม เดอะสตาร์ 5 สิงโต ดิว ฟลุค ฝันไม่หยุดนิ่ง ...... วิ่งทะยานกันต่อไป | Sanook Music

3 หนุ่ม เดอะสตาร์ 5 สิงโต ดิว ฟลุค ฝันไม่หยุดนิ่ง ...... วิ่งทะยานกันต่อไป

3 หนุ่ม เดอะสตาร์ 5  สิงโต ดิว ฟลุค ฝันไม่หยุดนิ่ง ...... วิ่งทะยานกันต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


ปิดฉาก The Star ค้นฟ้า คว้าดาว ปีที่ 5 ลงไปอย่างสนุกสนานเต็มอิ่ม และ สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี ก็สร้างประวัติศาสตร์ให้อีกครั้ง กับการเป็น The Star อายุน้อยที่สุด ต้องยอมรับเลยว่า สิงโตคนนี้คือไลอ้อนคิงของแท้ ความมุ่งมั่น ความพยายาม ขยันเรียนรู้ ทำให้สิงโตน้อยภูธรก้าวขึ้นเป็นเจ้าป่าเมืองกรุงได้สำเร็จ พร้อมด้วยเพื่อนอันดับ 2 ดิว พงศธร สุภิญโญ และ อันดับ 3 ฟลุค พชร ธรรมมล มาคลุกวงในถามไถ่คุยกันอีกครั้ง



สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี
เจ้าป่าภูธร....คำรามก้องสนั่นกรุง

The Star คนนี้คือดาวอะไรบนฟากฟ้า?
....ดาวลูกไก่ครับ ผมยังต้องพัฒนา ต้องเพิ่มเติมสีสันให้กับตัวเอง แล้วก็เรียนรู้อีกเยอะ ก่อนที่จะขันให้ดังก้องกังวาน

การแข่งขันผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังมีอะไรที่เราติดค้างให้กังวลหรือหนักใจอยู่มั่งมั้ย?
....คงเป็นเรื่องที่ต้องทำงานมากขึ้น มีอะไรที่ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้น จะว่าหนักใจมั้ยมันก็ไม่เชิงครับ เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ต้องเตรียมตั้งรับกับสิ่งที่จะเข้ามาในภายภาคหน้าให้ดี ต้องมีสติ จะได้ทำงานแต่ละงานออกมาอย่างดี

คอมเมนท์และให้ดาวตัวเองหน่อยสิ ว่าเก่งสมคำที่พี่เพชรว่า "เออเอ็งเก่ง" หรือเปล่า?
....ผมดีใจมากๆ ที่ได้รับคำชมว่า "เออเอ็งเก่ง" จากพี่เพชร ตั้งแต่ดู The Star ที่ผ่านๆ มา กว่าจะได้คำนี้มันยากมาก แต่ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งหรอกครับ (หัวเราะ) ผมยังเด็กยังมีอะไรต้องพัฒนาอีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องการร้อง การเต้น แสดง ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ ถ้าให้ดาวตัวเอง เต็มสิบก็เอาไปสักเจ็ดดาวแล้วกันครับ

วินาทีที่ออกจากบ้านมาแล้วรู้กระแสของตัวเอง ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
.....ผมยอมรับเลยว่ายังไม่ค่อยรู้เรื่องกระแสอะไรมาก แต่จากที่ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดธรรมดาคนหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็มีคนทั่วประเทศมาชื่นชอบ มาเชียร์มาให้กำลังใจและโหวตให้ ผมดีใจมาก ๆ และต้องขอบคุณทุกคน ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับชื่นชมผม ให้กำลังใจผมมากขนาดนี้ครับ

ย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด แล้ว ณ วันนี้รู้สึกยังไงกับเมืองกรุงบ้าง?
....กรุงเทพเป็นเมืองหลวงที่หลายคนฝันอยากเข้ามาทำงาน อยากเข้ามาอยู่ แต่สำหรับผมเป็นที่ที่ต้องทำงาน เพราะบ้านของผมคือที่ขอนแก่น เมื่อก่อนผมไม่ได้มีความคิดอยากมาอยู่หรืออยากมาเดินเที่ยวตามแหล่งวัยรุ่นอะไร กรุงเทพก็คือกรุงเทพ ไม่ได้คิดอะไรครับ

ตอนนี้ต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพเต็มตัว อยู่คนเดียวได้ เราสามารถ?
......ครับ ตอนนี้คงต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพ แต่ว่าแม่ไม่ได้มาอยู่ด้วยกัน มันเป็นความจำเป็นที่เราต้องทำงาน จะเลือกไปทำงานที่ขอนแก่นก็ไม่ได้ เราต้องยอมรับกับมัน และถึงจะไม่ได้อยู่กับครอบครัวแต่ทุกคนก็ยังโทรมาคุยมาให้กำลังใจกันได้ครับ ผมคิดว่าผมอยู่ได้นะ อย่างเรื่องการดูแลชีวิตไม่ว่าจะทำงานบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าว เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ยากที่จะดูแลตัวเอง แต่ถ้างานถนัดที่สุด ผมชอบทำกับข้าว

จุดโปรดในขอนแก่นที่ไปบ๊อยบ่อย และตรงไหนของเมืองหลวงที่อยากไปสัมผัสจัง?
......บึงแก่นนครครับ ที่นั่นเป็นบึงอยู่กลางเมือง คนทั่วไปมักจะนิยมไปพักผ่อนหย่อนใจหรือออกกำลังกายกัน อากาศจะร่มรื่นมาก ๆ ส่วนที่กรุงเทพผมอยากไปสวนสาธารณะ อยากไปเดินสวนของเมืองหลวงดูว่าจะร่มรื่น จะเย็นดีเหมือนที่ขอนแก่นบ้านผมมั้ย (หัวเราะ)

ทำส้มตำสูตรเด็ดเผ็ดร้อนในแบบของสิงโต ที่จะโชว์ฝีมือเพื่อขอบคุณทุกกำลังใจหน่อยสิ
.....จริงๆ ผมไม่เคยทำส้มตำนะ แต่รู้ว่ามีเครื่องปรุงสำคัญอย่าง มะละกอ มะเขือเทศ มะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ มีกุ้งแห้ง ถั่ว ผมจะทำส้มตำไทยแล้วกัน ใส่พริก 4 เม็ด เพราะผมหมายเลข 4 (หัวเราะ) ไม่เผ็ดมากรสชาติปานกลางกำลังกลมกล่อม แล้วก็ต้องกินกับไก่ย่าง ข้าวเหนียว

ขน The star ไปทำกิจกรรมบนดวงดาวสักดวง?
....ไปดาวพลูโต เพราะว่าเป็นดาวที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในระบบสุริยะแล้วก็เลยไปเยี่ยมเค้าหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง (หัวเราะ) และอยากตั้งแคมป์กินข้าว ทำอะไรชิลๆ ผ่อนคลายด้วยกัน

คิดซิว่าตัวเองหลังจากนี้จะเป็นยังไงบ้าง?
....ต้องทำงานมากขึ้น สำหรับในเรื่องส่วนตัวเราก็ต้องยอมรับว่าการเข้ามาทำงานตรงนี้จะมีส่วนตัวลดน้อยลงไป ส่วนเรื่องเรียนนี่เป็นเรื่องสำคัญ ผมคงต้องย้ายมาเรียนที่ดรงเรียนสาธิตประสานมิตรครับต้องทำงานด้วย เรียนด้วยมันหนักแน่นอน แต่ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดทั้งสองอย่างครับ



ดิว พงศธร สุภิญโญ
ความมืดไม่หวั่น......แต่เสียวสันหลังวาบ

การแข่งขันผ่านพ้นไปแล้ว ยังมีอะไรที่ติดค้างให้กังวลหรือหนักใจอยู่มั่งมั้ย?
.....กังวลใจหนักใจคงไม่มี แต่จะเป็นเรื่องการปรับสภาพหลังจากนี้ แล้วก็คงเป็นเรื่องที่เราต้องเสียชีวิตส่วนตัวไปบ้าง ซึ่งก็ต้องยอมเพราะ ซึ่งก็ต้องยอมเพราะมันเข้ามาตรงนี้แล้วน่ะ

ถึงจะไม่ได้เป็น The Star แต่ถ้าเปรียบตัวเองเป็นดาวสักดวง?
อืม....ผมไม่ค่อยรู้เรื่องดาวน่ะ (หัวเราะ) ไม่เป็นดาวหรอก เป็นดวงจันทร์ดีกว่า มันมีแสงแต่ไม่ร้อนแรง ดวงจันทร์ส่องแสงให้ทุกคนเห็นสว่างไสว แต่ไม่ร้อนแรงเกินไปเหมือนตัวผม (หัวเราะ)

ขน The Star 5 ไปทำกิจกรรมบนดวงดาว จะไปดาวไหน และทำอะไร?
.....ไปดาวเสาร์ เพราะมันเป็นดาวที่มีวงแหวนผมจะชวนเพื่อนๆ ไปเดินเล่น สำรวจบนวงแหวนดาวเสาร์ว่ามีอะไรบ้าง และพาทุกคนไปเล่นโยคะบนวงแหวนดาวเสาร์แล้วกัน (หัวเราะ)

ส่วนใหญ่พี่ทั้งสามจะคอมเมนท์ว่าดี คอมเมนท์ตัวเองอีกทีว่าควรได้กี่ดาว?
......เอาไป 8.5 ดาวแล้วกัน มันมีหลายจุดที่ยังไม่พอใจ ถ้ากลับไปได้อยากกลับไปแก้ไขทุกๆ วีคเลยนะ หลายคนอาจมองว่าผมทำดีแล้ว แต่ผมรู้สึกว่ายังมีจุดบกพร่องอยู่ และจุดที่ไม่ชอบเลยคือการสื่อสาร มันมีอยู่วีคนึงที่ผมไม่ค่อยสื่อสารเท่าไหร่

วินาทีที่ออกจากบ้านมาแล้วรู้กระแสของตัวเอง ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
......ดีใจมาก ขอบคุณมากจริงๆ ที่ให้กำลังใจกันมากขนาดนี้ ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจะมีคนเชียร์ชอบเรามากมายอย่างนี้ ทีนี้มันเป็นธรรมดาที่มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบเราด้วย แต่ผมยังไม่รู้กระแสคนไม่ชอบเรานะ

คิดว่าหลังจากนี้ตัวเองจะเป็นยังไงต่อไป?
.....เรื่องงานก็แล้วแต่โอกาสที่มันจะเข้ามาครับ ไม่ได้คิดอะไรไว้มาก อยากใช้ชีวิตไปตามปกติ ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ สำหรับเรื่องส่วนตัวตอนนี้การเรียนของผมเหลือทำธีซิสอีกหนึ่งตัวจะทำตอนเทอม 2 ส่วนเทอม 1 นี้คงต้องดร็อปก่อน เพราะผมเก็บวิชาเรียนไปหมดแล้ว

มีเพลงกลัวความมืดเป็นของตัว แล้วปกติเป็นคนกลัวความมืดหรือเปล่า?
.....ไม่กลัวครับ สามารถอยู่คนเดียวในที่มืด ๆได้สบาย

ประสบการณ์ขนลุกขนพองท่ามกลางความมืด?
.....เวลาเดินเข้าซอยหอมันจะมืดๆ ทำให้เสียวสันหลัง เหมือนมีอะไรสักอย่างวิ้วๆ ผ่านเราไป เย็นๆ วาบๆ ทำให้ขนลุก จริงๆ แล้วผมเชื่อเรื่องผี วิญญาณ แล้วก็กลัวเลยละ ประหลาดนะ อยู่ที่มืดๆ คนเดียวได้แต่กลัวผี มันขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วยแหละ ถ้ารู้ว่าตรงนั้นเคยมีประวัติสยอง พอมืดปั๊บเราคิดมันก็กลัว แต่ถ้าไมรู้อะไรมันก็ไม่คิด อย่างซอยหอผมมีเสียงลือมาเยอะ มันก็เลยรู้สึกครับ แต่ยังไม่เคยเจอจังๆ และก็ไม่ควรเจอด้วย (หัวเราะ)

ด้านมืดของตัวเองบนเวที The Star?
......สติครับ สติหลุดบนเวทีบ้างเหมือนกัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิดของตัวเอง พอขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วบางทีมันก็แว๊บหลุด ๆ ไปบ้าง

คติประจำใจที่เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต?
.....อยากทำก็ทำ แต่อย่าทำให้ลำบาก และต้องไม่เดือดร้อนใคร แล้วผมก็เชื่อในการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรแน่นอน เราต้องพร้อมยอมรับมันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติครับ



ฟลุค พชร ธรรมมล
หนุ่มทั้งแท่ง.....แมนเต็ม 100

การแข่งขันผ่านพ้นไปแล้ว ยังมีอะไรที่ติดค้างให้กังวลหรือหนักใจอยู่มั่งมั้ย?
....เรื่องสุขภาพครับ มันต่อเนื่องมาจากการแข่งขันที่ค่อนข้างหนักหน่วงมาก ช่วงสัปดาห์สี่คนกับห้าคน ฟลุคป่วยเป็นหวัดค่อยข้างหนัก แล้ววีคสุดท้ายที่เป็นมินิคอนเสิร์ต ฟลุคเป็นหวัดจนว่งผลถึงแก้วหูทำให้หูดับ ซึ่งมันส่งผลกับการร้องเพลงมาก หลังจากที่ออกจากบ้าน The Star มาแล้วมันเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นอยู่เรื่อยๆ พอหูดับแล้วมันจะส่งผลให้เราร้องเพลงเพี้ยนโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย ตอนอยู่ในบ้านคุณหมอก็มาฉีดยารักษาให้ แต่จะให้หายขาดมันต้องพักผ่อนและงดใช้เสียงบ้างครับ

ถึงผลจะไม่ได้เป็น The Star แต่ถ้าเปรียบตัวเองเป็นดาวสักดวง?
.....ดาวลูกไก่ครับ ขอเป็นดาวดวงเล็กๆ (หัวเราะ) ฟลุคคิดว่าสักวันหนึ่งคนอื่นๆ ก็จะมองเห็นมากขึ้น

ขน The Star 5 ไปทำกิจกรรมบนดวงดาวสักดวง จะไปดาวไหน และทำอะไร?
.....ไปดาวพุธครับ รู้สึกว่าจะร้อนสุดเลย (หัวเราะ) แต่คงไม่ไปอาบแดดกันหรอก อยากไปเจอแสงสว่างมากๆ ดูว่าเป็นยังไง แล้วเอาธง The Star 5 ไปปักไว้ว่าเรามาถึงแล้วนะ (หัวเราะ)

โดนพี่ๆ ทั้งสามคอมเมนท์มาเยอะคราวนี้คอมเมนท์และให้ดาวตัวเองหน่อยดีกว่า?
.....การประกวดครั้งนี้ทำให้ฟลุคสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ในแง่ของนิสัยส่วนตัวที่ปกติแล้วจะป็นคนเรื่อยๆ ขี้เกียจ อะไรที่มันต้องเหนื่อยต้องซีเรียสนี่ไม่เอาเลย ปล่อยตัวเอง ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนโดยไม่มีลิมิต แต่พอเข้ามาตรงนี้ทุกอย่างโดนจัดเอาไว้หมดว่าวันไหนต้องทำอะไร ตอนแรกยอมรับว่าเหนื่อยมาก จะถอดใจแล้ว เออ....เอาเหอะ ปล่อยๆ ไปดีกว่า ขึ้นๆ ไปร้องเดี๋ยวก็ออก (หัวเราะ) แต่วีคแรกที่ขึ้นโชว์ ได้เห็นครอบครัวเรา ได้เห็นคนมาเชียร์เรา เออมันให้คิดว่าเราต้องทำเพื่อพวกเค้านะ ตอนนั้นก็ทำให้ฟลุคเปลี่ยนตัวเองได้แต่ในส่วนการแสดงฟลุคยังเป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจ ฟลุคให้ตัวเองสัก 7 ดาวครับ

วินาทีที่ออกจากบ้านมาแล้วรู้กระแสของตัวเอง ตอนนั้นเป็นยังไง?
....ชั่วข้ามคืนเลยครับ มันเปลี่ยนชีวิตเราจริงๆ คนในครอบครัวจะมองเราในลักษณะที่ภาคภูมิใจอย่างน้องสาวตอนนี้ดูเหมือนเค้าจะปลื้มเรานิดๆ เหมือนกัน (หัวเราะ) สำหรับทุกแรงเชียร์ พอออกมาแล้วถึงได้รู้ว่าทุกคนที่ตามเชียร์เราเค้าเหนื่อยกันมากๆ และที่อึ้งที่สุดก็คือเห็นเว็บไซต์ของตัวเอง 4-5 เว็บที่พูดถึงเรื่องของเราและเพื่อนๆ เยอะมาก แต่มีคนรักก็มีคนเกลียด หลายคนมองฟลุคเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ต่อว่าเราแรงๆ เกลียดอีตุ๊ดนั่นร้องเพลงก็ไม่รู้เรื่อง ตอนแรกเสียใจมากครับ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโดนว่าแรงแบบนี้เลย แต่ก็ต้องยอมรับ คนเราต่างมุมพยายามเข้าใจแล้วมองกลับไปว่าทำไมเค้าถึงพูดอย่างนั้น นั่นมันก็เป็นเพราะการแสดงของตัวเราเองด้วย บางทีเราเล่นมากไปเค้าก็เลยมองเป็นแบบนั้น หรือร้องเพลงไม่ได้เรื่อง เออเราก็มีข้อบกพร่องจริงๆ ก็พยายามแก้ไขปรับปรุง แล้ววันนึงถ้าเค้าเห็นเรามีการเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนา เค้าก็คงเข้าใจครับ

มองเราเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วดีนัก ก็เป็นฮีโร่เท่ ๆ ให้ดูซะเลย?
.....ฮีโร่เหรอ (หัวเราะ) ชื่อดันไปตรงกับคนที่ผมชอบ ฮีโร่ ดงบังชินกิ ครับ คือถ้าพูดถึงก็อยากเป็นฮีโร่นั้นน่ะ (หัวเราะ) ผมว่าเค้าร้องเพลงได้โดดเด่นการแสดง เซ้นส์ในการร้องเพลง การแต่งตัว ทุกอย่างดูดี อยากเป็นเค้าครับ บางคืนยังเคยนอนฝันว่าได้ขึ้นไปร้องเพลงกับพวกเขาเลย (หัวเราะ)

เหตุการณ์นี้แหล่ะ ตัวเราโคตรแมนเลย?
....เคยไปเดทกับสาวตอนกลางคืน ทีนี้ในร้านที่เรานั่งกันอยู่ดันมีคนตีกันรุนแรงมาก ฟลุคก็ลุกไปยืนกันแฟนเราไว้ก่อน แล้วก็ไล่ๆ พวกนั้นให้ไปไกล เค้าตีกันเลือดอาบน่ะ เราก็ต้องกันผู้หญิงของเราไว้ก่อนตอนนั้นก็โดนลูกหลงบ้างนิดหน่อยครับ

เธอคนนี้ไง ถ้ามีโอกาสจะขอไปเป็นบอดี้การ์ดดูแลทุกเสี้ยววินาที?
.....แชยอน นักร้องสาวเกาหลีครับ ชอบมาก (หัวเราะ) น่ารักและเก่ง

ลูกผู้ชายอกสามศอก แต่แพ้ทางผู้หญิง?
....ฟลุคแพ้ผู้หญิงที่พูดจาหวานๆ เทคแคร์เราเยอะๆ และถ้าเค้าเข้าใจเราด้วยก็จะยิ่งดีครับ

แมนเต็ม 100 แต่ก็มีจุดละเอียดอ่อนกับเค้าเหมือนกัน?
.....ถ้าฟลุคงอน หรือไม่ชอบใจขึ้นมา ฟลุคก็จะนิ่งเงียบไปเลย ไม่พูดกับเค้าตรงๆ ซึ่งรู้สึกว่านั่นเป็นนิสัยผู้หญิง (หัวเราะ) ขี้งอน ขี้น้อยใจ นี่แหละครับเป็นจุดอ่อนของฟลุค แต่จะง้อง่ายนิดเดียว แค่เข้ามาเล่นๆ แหย่ๆ เดี๋ยวก็หายครับ ฟลุคโกรธง่ายหายเร็ว (หัวเราะ)

คิดว่าหลังจากนี้ ตัวเองจะเป็นยังไงต่อไป?
.....พยายามให้กำลังใจตัวเองว่า โอเค ถือว่ามันเป็นภาษีกับเราที่ติด 3 คนสุดท้าย เราอาจไม่ได้ขึ้นไปถึงที่1 ที่จะได้ออกอัลบั้มเดี่ยวก็เลยพยายามคิดว่าเราค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไป ค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ มันเป็นพื้นฐานที่มั่นคง ถ้าวันนึงประสบความสำเร็จแม้มันจะนานหน่อย แต่เราก็ภาคภูมิใจกับสิ่งที่เราค่อยๆ ผ่านมันมาครับ

จะได้ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 หรือที่โหล่ แต่สิ่งที่ทุกคนต้องมีและต้องทำคือ พยายามเรียนรู้และพัฒนากันต่อไป เชื่อว่าทั้งสามหนุ่ม สิงโต ดิว ฟลุค รวมทั้งเพื่อนพ้อง The Star 5 ทุกคนจะยังคงเดินหน้าคว้าฝันกันไปเรื่อยๆ เพราะความฝันมันไม่มีหยุดนิ่ง และพวกเขาทั้งแปดคนก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความุ่งมั่นตั้งใจ อย่างที่วัยรุ่นยุคนี้จะเอาไปเป็นเยี่ยงอย่างได้


ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook