คอนเสิร์ตปิดตำนาน...ของแท้ หรือแค่หลอกกันเล่น

ในยุคที่กลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆเข้ามามีปัจจัยสำคัญต่อวงการดนตรี ทำให้การทำคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินชื่อดังแต่ละครั้ง เจ้าของค่ายเพลงหรือนายทุนต้องคิดกลเม็ดการนำเสนออย่างแยบยลเพื่อดึงคนเข้าไปชมคอนเสิร์ตให้ได้มากที่สุด



หากลองสังเกตการใช้คำว่าคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของเหล่าศิลปินในเมืองไทยมาเป็นจุดขาย พลาดแล้วไม่รู้เมื่อไรจะได้ชมอีกครั้งนั้น เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ถูกหยิบมาใช้หลายครั้งหลายคราว ลองไล่เรียงกันที่เห็นชัดเจนสุดๆ คงหนีไม่พ้น วงเฉลียงที่ครั้งหนึ่งเคยลั่นวาจาว่าจะมีคอนเสิร์ต เรื่องราวบนแผ่นไม้ เป็นครั้งสุดท้าย ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีพวกเขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งกับคอนเสิร์ต เหตุเกิดที่...เฉลียง

ส่วนวงป๊อปร็อกระดับตำนานอย่าง นูโว ถึงแม้จะเคยกลับมารวมตัวเฉพาะกิจและเปิดคอนเสิร์ตที่ย้ำว่าเป็นเต็มโชว์ครั้งสุดท้ายของวงอย่าง Nuvo In Love เมื่อปี 2544 แต่ล่าสุดพวกเขากำลังจะมีคอนเสิร์ต นูโว นาว โชว์อิ้ง ขึ้นอีกในปีนี้สำหรับนูโว ยังพอเข้าใจได้เพราะมีการกลับมารวมตัวทำอัลบั้มใหม่กันด้วย มิใช่เพียงขายของเก่าซ้ำๆ

ฟากวงร็อกอย่าง ไมโคร ก็มีสถานการณ์คล้ายคลึงกับวงนูโวถึงแม้จะประกาศแยกทางกันไปคนละทิศละทางแล้ว แต่ในที่สุดพวกเขาก็มีคอนเสิร์ตด้วยกันขึ้นอีกครั้ง Put The Right Hand In The Right Concert อีกทั้งทุกวันนี้พวกเขาก็ยังกลับมารวมตัวเล่นคอนเสิร์ตในผับด้วยกันอยู่เนืองๆ

ส่วนวง กรู๊ฟไรเดอร์ส ที่เมื่อไม่นานมานี้พวกเขาเพิ่งประกาศว่าคอนเสิร์ต กรู๊ฟไรเดอร์ส ไฟล์ อิน แบงค็อก ลาสท์ คอล ฟอร์ จีอาร์ 007 จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย แต่พวกเขาก็ยังตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตตามสถานที่ต่างๆ กันกระจาย



ฟากค่ายขนมปังเบเกอรี่มิวสิค ในสมัยบอย โกสิยพงษ์ ซึ่งเมื่อปี 2547 ผุดคอนเสิร์ต B.Day Bakery Music Independent Day ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ เบเกอรี่ มิวสิค ที่การันตรีว่าจะเป็นการรวบรวมศิลปินในค่ายเอาไว้มากที่สุดครั้งแรก และครั้งเดียว แต่ต่อมาในอีกไม่กี่ปีให้หลังศิลปินค่ายเบเกอรี่ มิวสิค เหล่านี้ก็ขนกันไปขึ้นเวทีที่เขาใหญ่กันยกทีม หรืออย่างล่าสุดพวกเขาก็ไปรวมตัวกันในงานคอนเสิร์ต LOVEiS Present 15th Anniversary BOYdPOD Bittersweet Once In A Lifetime Concert ของ ป๊อด โมเดิร์นด็อก กับ บอย โกสิยพงษ์ อัดกันเสียแน่นเวทีเลยทีเดียว

ตามติดมาด้วยคอนเสิร์ต An Era Has Been Completed ของวง พี.โอ.พี ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการปิดตำนานวงเพราะสมาชิกวงทั้ง 3 ถึงเวลาต้องแยกย้ายกันไปทำงานตามแนวทาง แต่หลังจากนั้นในคอนเสิร์ตหลายคอนเสิร์ต 3 คนนี้ก็ยังกลับมารวมตัวกันเล่นในนามพี.โอ.พีอีกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ตู่- พรเทพ เฮง นักวิจารณ์เพลงชื่อดัง วิเคราะห์ถึงสาเหตุของเรื่องนี้ว่า เกิดจากหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวงดนตรีวงนั้นจะแยกทางกันแล้ว เลยเล่นคอนเสิร์ตอำลาเพื่อเอาเงินก่อน หรือไม่วงดนตรีนั้นก็เริ่มเสื่อมความนิยมลง จึงต้องใช้วิธีเรียกความสนใจจากคนดู ซึ่งมันเป็นอะไรที่ได้ผลมาก เพราะคนดูหรือคนที่ชื่นชอบศิลปินกลุ่มนั้นๆ ย่อมอยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศครั้งสุดท้ายร่วมกับนักร้องที่ตัวเองรัก อยากจะอยู่ในสถานการณ์ อยากจะไปร้องไห้ อำลาก่อนจะจากกัน

"ผมมองว่าการที่ศิลปินทำเช่นนั้นไม่ค่อยเป็นธรรมกับคนดูสักเท่าไรเพราะคอนเสิร์ตที่จัดครั้งสุดท้ายบัตรจะค่อนข้างแพง แต่สุดท้ายศิลปินพวกนั้นกลับมีคอนเสิร์ตขึ้นมาอีก มันทำให้คนที่เข้าไปดูเสียความรู้สึก แต่ผมไม่ได้ว่ามันเป็นการกระทำที่หลอกลวงประชาชนหรอกนะ แค่เป็นเรื่องของการไหลตามน้ำของศิลปิน และเป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน เป็นเรื่องการตลาด เพราะคำว่าคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย มันมีผลเรียกความสนใจให้คนเข้าไปชมคอนเสิร์ตได้มากกว่าการจัดปกติ

การใช้คำว่าคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของศิลปินเป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์มากนะเพราะถ้าศิลปินกลุ่มไหนจะใช้คำนี้ ก็ต้องทำให้ได้ด้วย เพราะไม่อย่างนั้นแล้วประชาชนก็จะเสื่อมความศรัทธาในตัวพวกเขาได้ หรือถ้าจะมีคอนเสิร์ตอีกครั้ง มันต้องหายไปนานหน่อยแล้วค่อยมี ไม่ใช่ใช้คำว่าคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย แต่ยังตระเวนเล่นคอนเสิร์ตอยู่ในเวลาไล่เลี่ยกัน เรียกว่ารีดความนิยมในตัวของตัวเองจนหมด ทั้งนี้ก็แล้วแต่จิตสำนึกของตัวศิลปินเองด้วยแหละ ว่าพวกเขาอยากให้แฟนเพลงจำภาพตัวเองเป็นแบบไหน"

ในความเป็นจริงท้ายที่สุดความจริงใจต่อผู้บริโภค อาจเป็นกลยุทธ์อย่างเดียวที่สุดยอด ซึ่งจะทำให้ศิลปินคนนั้นได้รับความนิยมมิเสื่อมคลายก็เป็นได้

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก