เปิดบ้านหลังเล็ก...แหล่งพักพิงพร้อมหน้าครั้งสุดท้ายของ น้ำ เดอะ สตาร์ | Sanook Music

เปิดบ้านหลังเล็ก...แหล่งพักพิงพร้อมหน้าครั้งสุดท้ายของ น้ำ เดอะ สตาร์

เปิดบ้านหลังเล็ก...แหล่งพักพิงพร้อมหน้าครั้งสุดท้ายของ น้ำ เดอะ สตาร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook



ในที่สุดความหวังของเธอคนนี้ก็กลายเป็นความจริงสำหรับ น้ำ- ศิราณี ทองนิยม เมื่อมารดาของเธอได้รับอนุญาตจากกรมราชทัณฑ์มารวมไว้อาลัยลูกสาวคนโตเป็นครั้งสุดท้าย เพราะก่อนที่น้ำจะจากโลกนี้ไปสิ่งเดียวที่เธอต้องการมากที่สุดคืออ้อมกอดจากผู้เป็นแม่ แต่เมื่อครั้งยังมีลมหายใจน้ำไม่สามารถได้รับสิ่งนั้นเพราะต้องเข้ารักษาตัวและตัวคุณแม่เองก็ไม่สามารถออกมาสู่โลกภายนอกได้เช่นกัน



จนมาถึงวันนี้ แม่ของน้ำได้รับโอกาสมาร่วมในงานสวดอภิธรรมศพของลูกสาวเป็นคืนแรก และในวันส่งวิญญาณในวันที่ 8 เม.ย. คุณแม่ของน้ำก็จะได้รับโอกาสเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างกายของลูกจะกลายเป็นเถ้าธุลีและเหลือไว้เพียงความทรงจำและความผูกพันภายในครอบครัว ทองนิยม



จากชีวิตเลือดนักสู้ของ น้ำ ที่สังคมกำลังให้ความสนใจอยู่ขณะนี้ แต่ น้ำ ได้จากไปแล้วพร้อมกับความห่วงใจที่ตัวเธอเองมีให้กับน้องสาวทั้ง 4 คนจวบจนลมหายในสุดท้าย น้ำ ก็ยังย้ำกับทุกคนว่าให้ช่วยดูแลน้องๆ แทนเธอด้วยและทำให้ นัท- จุฑาวรรณ ทองนิยม น้องสาวคนที่ 2 รองจาก น้ำ ต้องรับหน้าที่พี่สาวคนโตที่ต้องดูแลน้องๆ ที่กำลังอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอนและความซนที่แต่ละคนมีอยู่ในตัวไม่น้อย



บ้านไม้ 2 ชั้น ซึ่งดูจากลักษณะบ้านก็บ่งบอกถึงการใช้งานที่อยู่กันมานาน ที่ตั้งอยู่ในชุมชนบางอุทิศ ซอย 11/4 ที่ครอบครัว ทองนิยม อาศัยอยู่ร่วมกันทั้งหมด 8 ชีวิต ประกอบไปด้วย ป้า-ลุง (พี่สาวและพี่เขย ของแแม่) คุณพ่อชาญชัย, น้ำ, นัท, เนย, นิว และหนูนา ชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งหมดก็ดูจะมีความสุขตามอัตภาพ บ้านหลังนี้ถูกซอยเป็นห้องเล็กๆ หลายต่อหลายห้องเพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนสมาชิก ซึ่งห้องของ น้ำ ที่เธออาศัยเพียงคนเดียวก็เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีเพียงที่นอน ชั้นวางของ 1 ชั้น และโต๊ะคอมพ์ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ทำให้ห้องของน้ำดูเล็กลงไปถนัดตา



จนเมื่อ น้ำ ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยในการรักษา แต่ทุกคนในครอบครัวดูจะไม่มีใครท้อ หนำซ้ำดูจะมีความสุขที่ได้สู้เคียงข้างไปกับ น้ำ ทุกวันนี้ถึงแม้ นัท จะไม่ได้เรียนหนังสือ นัท อาจจะเคยท้อมาบ้าง แต่เมื่อเห็นพ่อ เห็นพี่ที่เข้มแข็ง และน้องๆ ในวัยซนอีก 3 คน ทำให้ นัท ถอยหลังไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือเดินหน้าต่อไป



บ้าน ทองนิยม ที่มีคุณพ่อ ชาญชัย เป็นหัวหน้าครอบครัวถึงแม้จะไม่ใหญ่โตนัก แต่ดูเหมือนความสุขในบ้านจะมีอยู่มาก เพราะตลอดที่ทั้ง 4 พี่น้องพาไปเยี่ยมชมบ้านและห้องนอนของพี่สาว น้ำ ทุกคนมีความสุข มีรอยยิ้ม ถึงแม้ นัท จะดูน้องไปบ้างเพราะความซนและเล่นจะบางครั้งลืมที่จะระวังตัว แต่อย่างไรก็ดี นัท ก็ไม่เคยละสายตาที่จะสอดส่องความปลอดภัยให้กับน้องทั้งหมดนั้นคือความห่วงที่พี่สาวคนหนึ่งมอบให้กับน้องๆ ทั้งสามคน เช่นเดียวกับที่ น้ำ เคยทำมาก่อนหน้านี้



ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านน้องๆ ทุกคนมีแต่พร่ำพูดถึงชื่อพี่น้ำ ถึงแม้จะมีออกอาการกลัวพี่สาวจะมาหา กลัวพี่น้ำจะมาแกล้งเพราะก่อนหน้านี้ ''น้ำ'' เป็นพี่สาวที่ขี้เล่น ชอบแกล้งน้องๆ ให้สนุกสนานกันเสมอ นั่นคือความผูกพันที่พี่น้องทั้ง 5 สาวมีให้กันเมื่อได้เยี่ยมชมบ้านของ ''น้ำ'' ล่วงเลยจนได้เวลากลับ น้องๆ ทุกคนก็ไม่ลืมที่จะตะโกนบอก ''น้ำ'' ว่า...''พี่น้ำจะออกจากบ้านแล้วนะ''...



นัท ได้เล่าให้ฟังว่าด้วยความที่บ้านอยู่ในชุมชนหลังคาบ้านแถบจะติดกันทุกหลัง ทำให้เรื่องทะเลาเบาะแว้ง หรือความซุกซนจนเกินขอบเขตของน้องๆ ทั้ง 3 ต้องมีบ้างจนบางครั้งเกิดเป็นเรื่องเป็นราวแต่ ''น้ำ'' จะเป็นคนที่กางปีกปกป้องน้องเสมอจนได้รับฉายาว่า น้องข้าใครอย่าแตะ



''พี่น้ำจะห่วงน้องหมดเลย จะมีใครมารังแก จะมีพี่น้ำคอยจัดการให้ จะลงไปอาละวาดหมดเลย ไม่ยอมมีปากเสียงก็ยอมแต่ใครอย่ามาทำน้องไม่ได้ แต่น้องซนมาก เนย จะซนสุด พี่น้ำจะเป็นคนร่าเริงแต่ก็ดุน้องบ้างเพราะเป็นพี่สาวคนโต จะว่าน้องว่าซนชอบรื้อบ้าน เก็บแล้วก็รื้อกันอีกทั้ง 3 คน''



นัทเล่าต่อว่าหน้าที่ทำงานในบ้านของ 5 พี่ ไม่มีระบุแน่นอน รู้แต่ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อให้มากที่สุด'' มีอะไรก็ช่วยๆ กันไม่มีใครแบ่งหน้าที่ของใคร พี่น้ำให้ทำอะไรก็จะไป น้ำทำอะไรช่วยกันก็ไปล้างจานบ้าง จะช่วยกันตลอดไม่มีหน้าที่ใครเป็นหลักน้องๆ จะช่วยกันดูกับพี่น้ำ 2 คน



จากนั้น ''นัท'' เองก็เริ่มน้ำตาซึมเมื่อเล่ามาถึงเรื่องที่เธอเองต้องออกจากโรงเรียนด้วยวัยเพียง 13 ปีเพราะต้องออกมาดูแลน้องหลังจากแม่เข้าคุกและพี่สาวร่างกายไม่แข็งแรงจนเกือบฆ่าตัวตาย ''ตอนนั้นตัดสินใจไม่เรียนเสียใจที่ไม่ได้เรียนต่อ ตัดสินใจเอง และก็คุยกับพ่อด้วย ครอบครัวตอนนั้นแย่แม่ติดคุก พ่อก็ต้องทำงานถ้านัทเรียนพ่อก็ต้องเอาน้องไปด้วยแล้วจะทำงานยังไง ตั้งแต่ 13 แล้วที่เลี้ยงน้อง เสียใจมากที่ไม่ได้เรียน เคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วย เพราะต้องคอยดูน้องไม่ได้ออกไปเที่ยวเหมือนคนอื่นเขา ก็ต้องดู ต้องช่วยพ่อ ก็ได้พ่อและก็ป้าๆ ช่วยพูด มีปรึกษากับพี่น้ำบ้างเหมือนกันก็ได้กำลังใจมาเพราะพี่น้ำก็ไม่สบายนัทก็ต้องช่วยเลี้ยงน้องพี่เขาบอกให้เข้มแข็งให้ช่วยพ่อ เสียใจที่พี่น้ำจากไป''



นัท อยากกลับไปเรียนอีกครั้ง ''อยากเรียนต่อค่ะ น่าจะหลังจากแม่ออกมาจากคุก แม่จะได้ดูแลน้องก็คงเรียน กศน. เรียนวันอาทิตย์วันเดียว ที่เหลือก็ช่วยแม่ขายของ ยังไม่ถามแม่เลยว่าจะขายอะไร เห็นแม่คิดไว้แล้วว่าจะขายของค่ะ''



รับหนักแน่นในฐานะ ''พี่คนโต'' ในตอนนี้จะทำหน้าที่แทน ''น้ำ'' ให้ดีที่สุด ''ก็น่าจะหนักขึ้นแต่ไม่เป็นไรเพื่อพ่อ ก็ต้องเข้มแข็ง พ่อก็บอกให้เข้มแข็งเพราะพ่อก็เข้มแข็งมาตลอด''







ดาวน์โหลดเพลงของ The Star 4 ได้ที่นี่ค่ะ











ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook