ทำความรู้จัก "Seventeen" วงร็อคคุณภาพจากอินโดนีเซียที่อยู่ในวงการมานานเกือบ 20 ปี | Sanook Music

ทำความรู้จัก "Seventeen" วงร็อคคุณภาพจากอินโดนีเซียที่อยู่ในวงการมานานเกือบ 20 ปี

ทำความรู้จัก "Seventeen" วงร็อคคุณภาพจากอินโดนีเซียที่อยู่ในวงการมานานเกือบ 20 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิถล่มช่องแคบ ซุนดา ประเทศ อินโดนีเซีย เมื่อ 21.30 น. วันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 222 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 800 คน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้สมาชิกวง Seventeen อย่าง Herman Sikumbang (มือกีตาร์), Bani (M. Awal Purbani) (มือเบส) เสียชีวิต ส่วน Andi (Windu Darmawan) (มือกลอง) ยังคงสูญหาย ในขณะที่นักร้องนำ Ifan (Riefian Fajarsyah) รอดชีวิต แต่ภรรยาของเขา Dylan Sahara ซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดังก็อยู่ในรายชื่อผู้สูญหาย >> นักร้องวง Seventeen ร่ำไห้ ! ตามหาภรรยาสาวสูญหาย หลัง "สึนามิ" ถล่มอินโดฯ

 

สมาชิกจากซ้ายไปขวา Herman, Andi, Ifan และ Bani

 

วง Seventeen เป็นศิลปินกลุ่มที่แจ้งเกิดในปี 1999 หลังปล่อยอัลบั้มชุด Bintang Terpilih ออกมา ก่อนจะเว้นช่วงมาปล่อยอัลบั้มชุด Sweet Seventeen ในปี 2005 โดยแนวเพลงของวงจะเป็นสไตล์ป็อปร็อค โดยในตอนแรกพวกเขามีสมาชิกอยู่ 6 คน ก่อนที่มือกีตาร์อย่าง Zozo (Zulianto Angga) และ Yudhi Rus Harjanto จะออกจากวงไปและทำให้วงเหลือมือกีตาร์คนเดียวคือ Herman 

 

 

 

 

ถึงแม้จะมีสมาชิกที่แยกทางออกไป แต่วง Seventeen ก็ได้เดินหน้าปล่อยเพลงต่อไป โดยในอัลบั้มชุดที่ 6  Pantang Mundur มีผลงานเพลงดัง "Menunggu Kamu" ซึ่งได้รับความนิยมจนมียอดวิวหลักล้านและถูกนำไปใช้ในโฆษณาแบรนด์ร้านอาหาร KFC ในอินโดนีเซียด้วย และในปัจจุบันพวกเขาก็เป็นศิลปินกลุ่มที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนในเฟสบุ๊คแฟนเพจ

 

 

การสูญเสียในเหตุการณ์สึนามิที่อินโดนีเซียเป็นเรื่องที่สร้างความเสียใจอย่างมากให้กับคนทั่วโลก รวมไปถึงครอบครัวและแฟนเพลงวง Seventeen โดยทาง Sanook! จะนำความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้มาอัปเดตผู้อ่านเป็นระยะๆ 

ขอบคุณภาพจาก Facebook Seventeen Band

Story : Sidhipong W.

>> เปิดภาพความเสียหาย สึนามิช่องแคบซุนซา อินโดฯ 

>> คลิประทึก สึนามิอินโดฯ ซัดกวาดเวทีนักร้องกลางชายหาด ผู้คนวิ่งหนีตาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook