ทำไมคนเราต้องดู "คอนเสิร์ต"

สำหรับบางคนแล้ว การไปดูคอนเสิร์ตอาจถูกมองว่าเป็นแค่กิจกรรมบันเทิงในขณะที่คนบางกลุ่มมองว่าเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นกิจกรรมที่มีอะไรมากกว่านั้น บ้างก็ว่ามันคืออีกรูปแบบหนึ่งของการฟังเพลง และ เสพศิลปะ หรือในบางสังคมก็นับเป็น กิจกรรมทางวัฒนธรรม  ซึ่งวันนี้เราก็เลยรวบรวมเหตุผลให้คุณฟังว่าทำไมการดูคอนเสิร์ตเนี่ยมันถึงเป็นเรื่องจำเป็นต่อชีวิต

 

ลีเดีย ลุลา

 

ลำดับแรกเลยคอนเสิร์ตมันคือการไปดูศิลปินแบบสดๆ ที่นอกจากจะได้เห็นศิลปินต่อหน้าแล้ว ได้เห็นพวกเขาร้องเพลงเล่นเพลงแบบสดๆ ด้วย ถึงแม้ว่าหลายครั้งเราอาจจะผิดหวังว่าทำไมเล่นสดแล้วไม่ฟินเท่ากับฟังที่บ้านนะ แต่ในทางกลับกันเราก็จะได้พบความประทับใจกับโชว์ที่ดีเกินคาด หรือศิลปินบางคนก็จงใจให้เพลงเวอร์ชันเล่นสดมีความแตกต่างออกไปจากในอัลบั้ม ซึ่งนี่คือเสน่ห์สำคัญของคอนเสิร์ตเลย

 

นนท์ ธนนท์

 

นอกจากนั้นเราจะยังได้เห็นตัวตนของศิลปินด้วย ทั้งพวกชอบพูดคุยกับคนดู และบางคนนี่พูดเก่งมากจนน่าจะไปเดี่ยวไมโครโฟนได้ อีกพวกคือพูดน้อยแต่เน้นการแสดงที่อาจจะไม่ได้เอนเตอร์เทนคนดูมาก แต่การแสดงสดของพวกเขาจะออกมาสมบูรณ์เสมอ และในขณะเดียวกันก็มีศิลปินบางคนอาจจะรู้ตัวแหละว่าตัวเองไม่ได้ร้องสดเก่งมาก เราก็จะได้เห็นว่าพวกเขามีวิธีการแก้ปัญหายังไง อย่างเช่นการร้องเสียงหลบ หรือยื่นไมค์ให้คนดูร้อง การได้สังเกตสิ่งเหล่านี้ก็เป็นความสนุกอีกแบบหนึ่ง

 

อิงค์ วรันธร ลุลา กานต์ The Parkinson และ เอิ๊ต ภัทรวี

 

ทีนี้เวลาไปดูคอนเสิร์ต เราไม่ได้ดูแค่นักร้องอย่างเดียว เรายังได้ดูองค์ประกอบอื่นของโชว์ด้วย ไม่ว่าจะการออกแบบเวที ลูกเล่นของไลท์ติ้ง (ระบบไฟ) บนเวที ภาพวิชวลกราฟิกที่ฉายบนจอ หรือคอนเสิร์ตสมัยนี้ก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาอยู่เรื่อย ที่ฮิตในช่วงหลังก็เช่น ริสต์แบนด์หรือแท่งไฟที่เปลี่ยนสีอัตโนมัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยขับเน้นการแสดงของศิลปินให้ทรงพลังขึ้นไปอีก

 

 อะตอม ชนกันต์ The TOYS

 

ความพิเศษอีกอย่างของคอนเสิร์ตคือเราไม่ได้ฟังเพลงอยู่คนเดียว แต่ยังมีคนดูอื่นๆ เป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นที่อยู่ร่วมกับเราด้วย พลังของมวลชนนี่มีผลต่อการดูคอนเสิร์ตจริงๆ นะ เช่นโมเมนต์ประเภทว่าคนดูช่วยกันร้องเพลงกันกระหึ่มจนเราขนลุกไปด้วย โชว์เพลงร็อคมันส์ๆ ที่ทำให้ผู้ชมกระโดดตัวลอยกันทั้งงาน หรือบางทีอาจเป็นคนดูที่ไปกับเรา ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟนก็ช่วยทำให้การดูสดครั้งนั้นมีโมเมนต์จำอย่างเช่นกอดคอกันร้องเพลง หรือจับมือกันตอนเพลงโรแมนติก ส่วนใครไปดูคนเดียวใช่ว่าจะต้องเหงา ถ่ายรูปหรือวิดีโอลงไอจี เดี๋ยวก็มีเพื่อนมากรี๊ดกร๊าดด้วยความอิจฉาเอง

 

อะตอม ชนกันต์

 

สุดท้ายคือ เมื่อต้นปีนี้มีผลวิจัยมาจากบริษัทอินเทอร์เน็ตสัญชาติอังกฤษ O2 ว่าคนที่ดูคอนเสิร์ตจะมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่ดูถึง 9 ปีเชียวนะ! สาเหตุคงเป็นเรื่องง่ายๆ ว่าการดูคอนเสิร์ตมันเหมือนการให้รางวัลกับชีวิตตัวเอง ไม่ว่าจะการอดออมเงินเพื่อไปซื้อตั๋ว หรือพักงาน สักวันนึงเพื่อไปสนุกให้เต็มที่ แม้จะเป็นความสุขไม่กี่ชั่วโมงแต่มันก็ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นมาก

 

ดังนั้นถ้าอยากให้รางวัลกับตัวเองด้วยจำนวนเงินที่ไม่ได้มากมายอะไรนัก คอนเสิร์ต Shopee presents Thailand Top 100 by JOOX 2018 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะในงานมีศิลปินกว่า 30 ชีวิต อาทิ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข, เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร, The TOYS (ธันวา บุญสูงเนิน), ดา Endorphine (ธนิดา ธรรมวิมล), วี-วิโอเลต วอเทียร์ ฯลฯ ในราคาบัตรเพียง 990 บาทเท่านั้น (นักเรียน/นักศึกษา 800 บาท หรือมาแบบยกก๊วน 3200 บาท/4ใบ) แล้วพบกัน 17 พฤศจิกายน นี้ ที่ Oasis Arena Show DC พระราม 9 ดูรายละเอียดได้ที่ Facebook Shopee presents Thailand Top 100 by JOOX 2018

  

Shopee presents Thailand Top 100 by JOOX 2018

 

นอกจากข่าวคราวคอนเสิร์ตแล้ว แฟนๆ JOOX สามารถติดตามข่าวสารสนุกๆได้ทาง Thairath Plus, Soilmilk (Your daily dose of fresh), สุดสัปดาห์, Cleo: 100% Best Friend, Nylon, Cheeze – Look Online (พื้นที่ของแฟชั่น คัลเจอร์ สตรีทสไตล์ ที่คนยุคใหม่ต้องฟอลโลว์), Happening and Friends (Better with Art) เช่นกัน

 

 

Story : JOOX