“MI4DX Concert” 10 ปีแห่งความสำเร็จ และการเดินทางสู่ทิศทางใหม่ของ “Mild” อย่างเต็มตัว | Sanook Music

“MI4DX Concert” 10 ปีแห่งความสำเร็จ และการเดินทางสู่ทิศทางใหม่ของ “Mild” อย่างเต็มตัว

“MI4DX Concert” 10 ปีแห่งความสำเร็จ และการเดินทางสู่ทิศทางใหม่ของ “Mild” อย่างเต็มตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอ่ยชื่อวงดนตรีนามว่า Mild ขึ้นมา แทบจะทุกคนที่จะนึกถึงเพลงช้าๆ ซึ้งๆ อย่าง “อีกนานไหม”, “Unloveable”, “รักเราไม่เท่ากัน” หรือจะเป็นเพลงรักอกหักในยุคหลังเมื่อครั้งพวกเขาได้เข้ามาเป็นสมาชิกในค่าย Spicy Disc อย่าง “กรรมตามสนอง”, “Sayonara”, “ที่จริงเราไม่ได้รักกัน”

หรือแม้แต่เพลงจังหวะคึกคัก โทนสว่างสดใสทั้ง Lovesick”, หวานเย็น, I’m OK” ที่อยู่ในดวงใจใครหลายคนมาตลอดระยะเวลา 10 ปีในแวดวงดนตรีบ้านเรา และก็ถือเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมที่ Mild จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบอีกครั้งเพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสำเร็จที่ผ่านมา คอนเสิร์ต Leo presents MI4DX Concert จึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

3 นักร้องนำแห่ง 60 Miles, Morning Soon และ The Rube

3 นักร้องนำแห่ง 60 Miles, Morning Soon และ The Rube

 

ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยเกริ่นนำอะไรให้มากความ Opening Act ทั้ง 3 วงทยอยขึ้นเวทีเป็นการอุ่นเครื่อง รอรับความสนุกจากเจ้าของงานตัวจริงในช่วงถัดไป Morning Soon ถือเป็นวงร็อคที่มีฝีมือน่าจับตา ริฟฟ์กีตาร์รวมถึงไลน์ดนตรีอื่นๆ เท่ไม่เบา ยิ่งเมื่อมาผสมผสานกับเมโลดี้เพลงแบบป็อปๆ ในความเห็นส่วนตัวถือเป็นเคมีอันยอดเยี่ยมที่ทางวงนำมาผสมผสานกัน ในขณะที่ The Rube และ 60 Miles ที่รายหลังมีภูมิลำเนาอยู่ที่เชียงใหม่เหมือนวง Mild คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก การมีเพลงฮิตและโชว์บนเวทีที่ดี เพียงเท่านี้ก็สร้างความสุขให้คอเพลงทุกคนในฮอลล์ธันเดอร์โดมได้อย่างง่ายดายแล้ว

เป้ นักร้องนำ กับบรรยากาศใต้แสงจันทร์

เป้ นักร้องนำ กับบรรยากาศใต้แสงจันทร์

 

และก็ถึงเวลาที่ Mild จะมาทะลวงทุกโสตประสาทของแฟนๆ กันแล้ว ไอเดียของซีนเปิดโชว์เท่เอามากๆ กับการนำหนึ่งในเอกลักษณ์ของวงอย่างเสียงแซ็กโซโฟนมาประเดิม เป้-ไพสิฐ คำกลั่น มือแซ็กฯ ออกมาบรรเลงท่วงทำนองอยู่กลางฮอลล์ ก่อนที่สมาชิกแต่ละคนไม่ว่าจะเป็น ทอมท่อม-ณธีพัฒน์ ประเสริฐมนูกิจ (คีย์บอร์ด), ขุน-พิทวัส ขุนทอง (เบส), ไมค์-ธงไชย ทิมพูล (กลอง), เต่า-เจน มโนภินิเวศ (กีตาร์) จะขึ้นมาโชว์ในพาร์ตของตัวเองทีละคน ปิดท้ายด้วยนักร้องนำ เป้-บดินทร์ เจริญราษฎร์ ที่ปรากฏตัวพร้อมเพลง Sayonara” ที่ร้องตามกันกระหึ่มไม่ว่าจะท่อนร้องหรือท่อนแร็ป ก่อนจะลากยาวเพลงสนุกๆ แบบต่อเนื่องทั้ง I’m OK”, “Love Sick”, “I Got You”, “ไม่มายด์” และ หวานเย็น โดยมีช่วงโซโล่กลองและเบสมาคั่นเล็กน้อย

แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์คนแรก อร BNK48

แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์คนแรก อร BNK48

 

เบรกให้แฟนๆ ได้พักร่างกายกันบ้าง ทว่าเสียงนี่ยังร้องตามกันอย่างสุดเสียง เพราะเพลงเซตต่อมานี่เป็นเพลงช้าเนื้อหาจี๊ดๆ ทั้งสิ้น เริ่มจาก “อีกนานไหม” เพลงแรกเมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้วที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักวง Mild ซึ่งได้ พัศชนันท์ เจียจิรโชติ ที่คงไม่ค่อยมีใครคุ้นชื่อเสียงเรียงนามนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเราบอกว่าแขกรับเชิญคนแรกของค่ำคืนดังกล่าวคือ อร BNK48 ล่ะ! มาแบบเซอร์ไพรส์ไม่น้อย แถมยังเป็น “อีกนานไหม” เวอร์ชั่นเปลี่ยนคีย์ที่อาจจะฟังแปลกหูไปบ้าง และสำหรับ “อรอุ๋ง” ที่อาจไม่ได้มาในสายพลังเสียง แต่ก็ถือว่าเธอทำได้ดีทีเดียว ต่อด้วย “กรรมตามสนอง”, “ที่จริงเราไม่ได้รักกัน” และอีกหนึ่งเพลงใหม่ Full Moon” ที่สร้างมวลความเศร้าก้อนมหึมาลอยละล่องอยู่ภายในธันเดอร์โดมของแท้

ไมค์ มือกลองร่างเล็กฝีมือใหญ่

ไมค์ มือกลองร่างเล็กฝีมือใหญ่

 

ขุน มือเบสวง Mild ผู้มาพร้อมรอยยิ้ม

ขุน มือเบสวง Mild ผู้มาพร้อมรอยยิ้ม

 

สลับสับเปลี่ยนบทบาทให้มือกีตาร์สุดเท่อย่าง เต่า มารับหน้าที่ฟร้อนต์แมนบ้างกับเพลง Forever” และ “Over” ก่อนส่งไม้ต่อให้ เป้ มือแซ็กฯ มาสร้างความสนุกในเพลง “ดีต่อใจ” และบรรยากาศที่ค่อนข้างนิ่งไปสักนิดเมื่อครู่ก็กลับมาสู่โหมด “ฮาไม่ยั้ง” เมื่อ 4 หนุ่ม Tattoo Colour ออกมาแบบไม่ต้องรอคิวปล่อยอะไรทั้งสิ้น ยิงมุขราวกับปืนอาก้า แถมยังมอบโชว์พิเศษกับการนำเพลงของทั้ง 2 วงมาบรรเลงรวมกันอย่าง “ผู้ป่วยความจำเสื่อม” และ “จำทำไม”, “ฉันรักเธอ” และ “รักล้นใจ” รวมไปถึง “เข้าใจแต่ทำไม่ได้” และ “ฟ้า” ซึ่งทั้งลงตัวและลื่นไหล แม้ว่าจะแอบเสียดายนิดๆ ที่อยากจะฟังเพลงช้าเหล่านี้ของ Mild แบบเต็มเพลงก็ตาม

พาร์ตที่สนุกที่สุดช่วงหนึ่งกับ Tattoo Colour

พาร์ตที่สนุกที่สุดช่วงหนึ่งกับ Tattoo Colour

 

จากบรรยากาศสไตล์วงดนตรีป็อป หยิบรีโมตมากดเปลี่ยนช่องไปสู่ ฮิปฮอปแชนแนล บ้าง Mindset หรือ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์คู่กับ เป้ (ร้องนำ) ในรายการ Show Me The Money Thailand ในนาม Double P ก็ก้าวขึ้นสู่เวทีเรียกเสียงกรี๊ดขนานใหญ่จากเพลง Miyabi” และ “อย่าคิดมาก” ที่มีแร็ปเปอร์ลูกทีมมาร่วมสร้างสีสัน ต่อด้วย P-Hot ที่หนึ่งหนุ่มแร็ปเปอร์ที่กำลังมาแรงก็พาทุกคนคึกสุดๆ ไปกับ “เอาเบอร์มาดิ” ที่ทุกคนทำท่ายกหูกริ๊งกร๊างกันยกใหญ่ แถมหนุ่มป๊อกยังโชว์สเต็ปสามช่าแบบที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นกันสักเท่าไหร่อีกด้วย

ป๊อก Mindset ก็มาออกสเต็ปแดนซ์กับ เป้ Mild

ป๊อก Mindset ก็มาออกสเต็ปแดนซ์กับ เป้ Mild

 

เมื่อ แจ๊ส ชวนชื่น โดน เป้ แกล้ง

เมื่อ แจ๊ส ชวนชื่น โดน เป้ แกล้ง

 

ช่วงของแขกรับเชิญยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แจ๊ส ชวนชื่น (ผดุง ทรงแสง) ฟร้อนต์แมนวง แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก ก็ออกมาพร้อมคอสตูมสีแดงแรงฤทธิ์ เรียกเสียงฮายามดึกได้เป็นอย่างดี แถมยังมีเพลง “แว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว” และ “มือลั่น” ที่ในเพลงหลัง หนุ่มเป้แย่งหน้าที่ร้องนำจนแจ๊สหน้าเจื่อน แอบคิดเล็กๆ ว่าถ้ามีทีมบริษัท ฮา ไม่จำกัด มาเซอร์ไพรส์อีกนี่น่าจะท้องคัดท้องแข็งกัน ต่อด้วย Botcash (เอ้-สัณหภาส บุนนาค) จาก Boom Boom Cash ที่ออกมาเปลี่ยนฮอลล์ธันเดอร์โดมให้กลายเป็นเทศกาลดนตรี EDM โดยมีการหยิบเพลงดังของ Mild มาใส่บีตอิเล็กทรอนิกส์พีคๆ และส่งท้ายช่วงของเขาด้วยเพลง “Wolf” ที่ทำร่วมกับ Mild ซึ่งถือเป็นกลิ่นอายดนตรีเท่ๆ หม่นๆ ที่ไม่ค่อยเห็นจากพวกเขาบ่อยครั้งนัก

ความมันจาก Botcash

ความมันจาก Botcash

 

ช่วงท้ายของโชว์ Mild หยิบ 2 เพลงดังอย่าง “รักเราไม่เท่ากัน” และ Unloveable” มาขับกล่อมความเศร้าอีกครั้ง ซึ่งก็จำไม่ได้แล้วอีกเช่นกันว่า เราได้ฟังเวอร์ชั่นเล่นสดของ 2 เพลงนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก่อนจะแถมในช่วงอังกอร์อีกสักเพลงกับ “Sayonara” จบคอนเสิร์ตไปพร้อมกับเม็ดฝนที่ยังคงโปรยปรายอย่างหนัก

Mild เป็นวงดนตรีที่มีจุดเด่นมากๆ ในเรื่องของเซนส์ในการทำ “เพลงเพราะ” ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า เมื่อใดที่ Mild ปล่อยเพลงช้าออกมา มันจะฮิตติดหูคนฟังได้แทบจะทุกครั้ง โดยส่วนตัวเราจึงแอบเสียดายเล็กน้อยที่ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เราได้ฟังเพลงซึ้งๆ ที่เรา (และเชื่อว่ามีแฟนๆ อีกจำนวนมาก) คิดถึงในแบบเต็มเพลงค่อนข้างน้อย ในทางกลับกัน การได้ฟังเซตเพลงที่ค่อนข้างมีจังหวะ ก็ทำให้เรามองวง Mild ในมุมที่ต่างออกไป ไอเดียในเชิงเพอร์ฟอร์แมนซ์ของทั้ง 6 หนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสเต็ปการเต้นที่นำมาสอดแทรกในหลายๆ เพลง หรือจะเป็นโซโล่กีตาร์ในท่วงทำนอง “ค้างคาวกินกล้วย” ที่เอามาใส่ในเพลง “Love Sick” สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นกับวงได้ดีทีเดียว

มนต์เสน่ห์เสียงแซ็กโซโฟนจากหนุ่มเป้

มนต์เสน่ห์เสียงแซ็กโซโฟนจากหนุ่มเป้

 

ไม่นับรวมถึง “ฝีมือ” ทางดนตรีที่ต้องยอมรับว่า วง Mild เป็นวงที่มีทักษะแข็งแกร่ง ทีมเวิร์กแน่น พาร์ตโซโล่เดี่ยวของ เป้ (แซ็กโซโฟน), ทอมท่อม (คีย์บอร์ด, เปียโน), ไมค์ (กลอง), ขุน (เบส) และ เต่า (กีตาร์) ต่างมีเสน่ห์ไปตามสไตล์ของแต่ละคน แต่ที่ประทับใจที่สุดขอยกให้ช่วงที่ ทอมท่อม เดี่ยวเปียโนก่อนเข้าเพลง “อีกนานไหม” ที่เศร้าได้ใจ แถมยังได้แสดงฝีมือการบรรเลงเปียโนคลาสสิคในรูปแบบที่เราแทบไม่เคยเห็น ในขณะที่เรื่องซาวด์โดยรวมของคอนเสิร์ตก็ค่อนข้างธรรมดา ฟังกันแบบเพลินๆ ไปเรื่อยๆ มีแค่บางช่วงที่เราไม่ค่อยได้ยินเสียงกีตาร์ของ เต่า สักเท่าไหร่ โดยความเด่นชัดจะไปตกอยู่ที่กลองและเบสเสียมากกว่า

ทอมท่อม กับลีลาเดี่ยวเปียโนสุดซึ้ง

ทอมท่อม กับลีลาเดี่ยวเปียโนสุดซึ้ง

 

ด้วยความที่เป็นวงดนตรีวาไรตี้ป็อป เราจึงได้เห็นความหลากหลายที่ไม่จำกัดอยู่แค่เพลงป็อปในคอนเสิร์ตครั้งนี้ และยิ่งเมื่อในช่วงหลัง เอกลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของ Mild คงจะหนีไม่พ้นท่อนแร็ปของ เป้ ซึ่ง MI4DX Concert ทางวงก็ค่อนข้างนำเสนอพาร์ตนี้อย่างชัดเจน ข้อดีมันก็คือการยืนยันตัวตนของ Mild ใน พ.ศ. นี้แล้วล่ะ ว่าพวกเขาต้องการนำเสนออะไรสู่ผู้ชม ดนตรีป็อปร้องตามง่าย ท่อนฮุกโดนๆ ผสมกับการแร็ป นี่แหละวง Mild ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

เต่า Mild ดวลกีตาร์กับ รัฐ Tattoo Colour

เต่า Mild ดวลกีตาร์กับ รัฐ Tattoo Colour

 

แต่สำหรับโชว์ในค่ำคืนดังกล่าว พาร์ตฮิปฮอปเพียวๆ ที่ลากยาวไปจนถึงช่วง EDM โดยส่วนตัวรู้สึกว่ามันยาวนานไปสักหน่อย ยืดยาวจนบรรยากาศความเป็น Mild มันเลือนหายไปพักใหญ่ ซึ่งกว่าจะกลับมาเชื่อมต่อความรู้สึกในช่วงแรกติด ก็เหลือแค่ 2-3 เพลงสุดท้ายแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ เราไม่ค่อยสัมผัสได้ถึงความ MI4DX ตามชื่อคอนเสิร์ตสักเท่าไหร่ รวมถึงความต่อเนื่องที่ยังดูขาดๆ เกินๆ ในบางช่วงบางตอน

Mild

Mild

 

เอาเข้าจริงในตอนนี้ เอกลักษณ์ของวง Mild ตามที่เรากล่าวไปเมื่อย่อหน้าที่แล้วคือหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่มี และพวกเขาก็ทำได้ดีเอามากๆ ในแบบฉบับของพวกเขาเอง MID4X Concert อาจเป็นการตอกย้ำจุดยืนของทั้ง 6 สมาชิกในทุกวันนี้และวันข้างหน้าบนถนนสายดนตรีเมืองไทย แม้จะเป็นคอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปีที่ไม่อิ่มเอมในหัวใจเท่าที่ควร

แต่เราก็รู้แล้วล่ะว่าตัวตนของ Mild น่ะชัดเจนในความรู้สึกของทุกคนขนาดไหน

 

Story by: Chanon B.
Photos by: Spicy Disc

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ ของ “MI4DX Concert” 10 ปีแห่งความสำเร็จ และการเดินทางสู่ทิศทางใหม่ของ “Mild” อย่างเต็มตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook