รำลึก Aretha Franklin ราชินีดนตรีโซล กับ ผลงานเพลงที่ไม่มีวันตาย | Sanook Music

รำลึก Aretha Franklin ราชินีดนตรีโซล กับ ผลงานเพลงที่ไม่มีวันตาย

รำลึก Aretha Franklin ราชินีดนตรีโซล กับ ผลงานเพลงที่ไม่มีวันตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่กับวงการเพลงโลกอีกครั้ง เมื่อ Aretha Franklin ศิลปินโซลได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 76 ปี หลังจากที่รักษาตัวจากปัญหาสุขภาพเป็นเวลาเกือบปี โดยการจากไปของเธอสร้างความโศกเศร้าอย่างมากให้กับแฟนเพลง และ ศิลปินที่ได้ร่วมงานกับเธอ เพราะในปัจจุบันผลงานเธอยังคงสร้างความสุขให้กับคนรุ่นใหม่ และ เป็นเหมือนเพลงครูสำหรับศิลปินโซลอาร์แอนด์บีที่อยากก้าวเข้ามาตามหาฝันในวงการ >> "Aretha Franklin" ตำนานเจ้าแม่เพลงโซล เสียชีวิตแล้วในวัย 76

 

Aretha Franklin

 

Aretha Franklin เกิดในวันที่ 25 เมษายน ปี 1942 ในครอบครัวของนักเทศน์ศาสนาคริสต์ ที่ทำให้เธอได้สัมผัสดนตรี Gospel (ดนตรีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาคริสต์) และเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาการร้องและเล่นเปียโนของเธอ และหลังจากที่มีอายุ 14 ปี Aretha ก็ได้เริ่มเดินสายแสดงดนตรี Gospel กับครอบครัว ก่อนที่จะได้ทำเพลงอัลบั้มแรก Songs of Faith ในปี 1956 กับค่าย J.V.B. Records และเซ็นสัญญากับค่ายเพลง Columbia Records ในปี 1960 ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี 

 

Aretha Franklin

 

อัลบั้มชุด Aretha: With The Ray Bryant Combo กับค่าย Columbia Records ของเธอได้มาพร้อมแนวเพลงที่มีกลิ่นอายความเป็นอาร์แอนด์บี บลูส์ และ แจ๊ส ประกอบกับเสียงอันทรงพลังของเธอ ทำให้เพลง "Won't Be Long" จากอัลบั้มนี้ได้เข้าชาร์ต Billboard Hot 100 ก่อนที่ทางค่ายจะปล่อยอัลบั้ม The Electrifying Aretha Franklin and The Tender the Moving และ The Swinging Aretha Franklin ตามมาในปี 1962 โดยช่วงที่อยู่กับ Columbia Records Aretha มีผลงานออกมาทั้งหมด 9 ชุด 

 

Aretha Franklin

ผลงานเพลงที่ทำให้เธอแจ้งเกิดในวงกว้างก็คืออัลบั้ม I Never Loved a Man the Way I Love You  ผลงานชุดที่ 11 ซึ่งเธอได้ทำกับค่าย Atlantic Records ซึ่งมาพร้อเพลง "Respect" ซิงเกิลที่ Aretha นำเพลงของ Otis Redding มาร้องใหม่จนขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Hot 100 และทำให้เธอกลายเป็นศิลปินคนแรกที่คว้ารางวัล Best Female R&B Vocal Performance จากเวที Grammy Awards ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ได้คว้ารางวัลดังกล่าวติดต่อกัน 8 ครั้งจนถึงปี 1975 และอีก 3 ครั้งหลังจากปีนั้น 

 

Aretha Franklin

ในปี 1968 Aretha ก็มากับอัลบั้มชุด Lady Soul ที่มีเพลงทรงพลัง "(You Make Me Feel Like) A Natural Woman" และ "Ain't No Way" ที่ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 แต่ยอดขายอัลบั้มชุดนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็สูงกว่า 1 ล้านชุด และทำให้นิตยสารอย่าง Rolling Stones จัดให้อัลบั้มนี้ติดอันดับที่ 84 ในเล่มพิเศษที่ฉลอง 500 อัลบั้มที่ยิ่งที่สุดตลอดกาลในปี 2003 และปีเดียวกันเธอก็มีอัลบั้มชุดที่ 15 Aretha Now ที่เธอได้คัฟเวอร์เพลง  "I Say a Little Prayer" ของ Dionne Warwick ที่เข้าไปติดอันดับ 4 ชาร์ต UK Singles Chart ในประเทศอังกฤษ และทำให้ชื่อเสียงเธอเริ่มเป็นที่รู้จักนอกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลงานเพลง "I Say a Little Prayer" ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงอมตะที่มักจะถูกนำมาใช้ตามภาพยนตร์และโฆษณาจนคุ้นหูผู้ฟังหลายๆ คน ถึงแม้จะไม่ใช่นักฟังเพลงสากลก็ตาม

 

Aretha Franklin

 

 

ความสำเร็จในยุค 60s ส่งให้เส้นทางดนตรีของเธอในปี 70s นั้นมาพร้อมโอกาสมากมาย อย่างเช่นการทำผลงานอัลบั้ม Spirit in the Dark, Young, Gifted & Black แต่ในปี 1975 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งในค่ายจนทำให้เธอได้ตัดสินใจออกจากค่ายในปี 1979 หลังปล่อยอัลบั้มชุดที่ 28 La Diva 

 

Aretha Franklin

ช่วงปี 1980 เป็นต้นมา Aretha ได้ร่วมงานกับค่าย Arista Records และเริ่มปรับผลงานให้มีแนวทางใหม่ๆ โดยในปี 1982 อัลบั้มชุด เป็นผลงานที่ทำให้เธอกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่ติดอันดับ 1 ชาร์ตอัลบั้มอาร์แอนด์บีของ Billboard เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ก่อนที่อัลบั้มชุด Who's Zoomin' Who? และ Aretha จะตามมาในปี 1985 และ 1986 และยอดขายสูงกว่าล้านอัลบั้มในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลงานเพลงฮิตในยุคหลังของเธอก็มีเพลง "Jumpin' Jack Flash", "Jimmy Lee" และ "I Knew You Were Waiting for Me" ที่เธอได้ร้องกับ George Michael ศิลปินอังกฤษผู้ล่วงลับ จนทำให้เพลงได้ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต UK Single

 

Aretha Franklin

 

ในยุค 90s เป็นต้นมา Aretha ได้มีผลงานเพลงออกมาเป็นระยะ ทั้งเพลง "A Rose Is Still a Rose" รวมถึงได้รับเกียรติในการแสดงบนเวทีสำคัญอย่างเช่นการร้องเพลงชาติในการแข่งขัน Super Bowl XL ปี 2005 งานสาบานเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี Bill Clinton และ Barack Obama  รวมถึงการทำงานเพื่อสังคมที่ทำให้เธอได้รับ เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี จาก ประธานาธิบดี George W. Bush ในปี 2005 และก่อนหน้าที่จะรักษาตัวจากอาการป่วย เธอก็เพิ่งปล่อยอัลบั้มชุดที่ 42 A Brand New Me ที่ได้มีการนำดนตรออเคสตร้าที่เล่นโดยทีมนักดนตรี Royal Philharmonic Orchestra จากประเทศอังกฤษ มาผสมผสานกับผลงานเพลงที่มากับเสียงอันทรงพลังของเธอ 

 

Aretha Franklin

 

ตลอดเวลามากกว่า 6 ทศวรรษ หรือ 60 ปีบนเส้นทางดนตรี Aretha Franklin ได้รับรางวัล Grammy Awards เป็นจำนวน 18 รางวัล และมียอดขายอัลบั้มมากกว่า 75 ล้านก็อปปี้ และเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้มีชื่ออยู่ใน Rock and Roll Hall of Fame ตั้งแต่ปี 1987  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และมีจุดเริ่มต้นมาจากพรสวรรค์ทางดนตรีของเธอ โดย Aretha นั้นเป็นศิลปินที่มีพลังเสียงทรงพลัง และมีความสามารถในการเล่นดนตรี จนสามารถพาดนตรีโซลที่เธอชื่นชอบ ไปผสมผสานกับเพลงแนวอื่นได้อย่างลงตัว จนทำให้เธอได้รับฉายาว่าเป็น ราชินีเพลงโซล

 

Aretha Franklin

 

การสูญเสีย Aretha Franklin ถือเป็นสิ่งที่สร้างความเสียใจอย่างมากให้กับแฟนเพลงทั่วโลก รวมถึงศิลปินจำนวนมากที่ได้รับอิทธิพลในด้านดนตรีและการใช้ชีวิตจากเธอ ซึ่งทาง Sanook Music เองขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของเขาเช่นกันครับ

Story : Sidhipong W.

ขอบคุณภาพจาก Getty Images

 

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ รำลึก Aretha Franklin ราชินีดนตรีโซล กับ ผลงานเพลงที่ไม่มีวันตาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook