ไขความลับในความป๊อปของ “ป๋าเต็ด ยุทธนา” ที่ซ่าทุกยุค ไม่มีเปลี่ยน

     ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นยุค 90 ที่โตมากับการฟังวิทยุ คุณต้องเคยสนุกไปกับการโทรไปขอเพลงและเล่นเกมแบบสดๆ กับพี่ดีเจตามคลื่นต่างๆ บางคนอาจจะเคยฟอร์มวงดนตรีกับเพื่อนมัธยมเพื่อไปโชว์ฝีมือบนเวที Hot Wave Music Awards ถัดมาอีกไม่กี่ปีก็ได้ไปเดินเที่ยวในงานสุดอินดี้อย่าง Fat Festival และสนุกสุดมันแบบข้ามวันข้ามคืนในเทศกาลดนตรี Big Mountain  

     ทุกกิจกรรมทางดนตรีที่ว่ามานี้มีจุดกำเนิดจากไอเดียของ ป๋าเต็ด – ยุทธนา บุญอ้อม ครีเอทีฟรุ่นใหญ่หัวใจวัยรุ่น เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อเด็กแนว” ที่ทุกวันนี้ก็ยังคงสนุกกับทุกวัฒนธรรมป็อปที่เขาคลุกคลีมานานกว่า 30 ปี และยังคงวางตัวเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของคนรุ่นใหม่ได้แบบไม่มีตกยุค

 

     “ผมมองว่ามันเป็นเรื่องสนุก” ป๋าเต็ดวิเคราะห์ถึงตัวตน ว่าทำไมเขาถึงสื่อสารภาษาเดียวกับวัยรุ่นได้เสมอ “วัยรุ่นยังมีประสบการณ์น้อย เรียนหนังสือยังไม่จบ อ่านหนังสือยังไม่ครบ ซึ่งความไม่ครบถ้วนนี่แหละที่ทำให้เขากล้าลองทำบางสิ่งบางอย่าง และแตกต่างไม่เหมือนใคร ความใจร้อน เปลี่ยนใจรวดเร็วของวัยรุ่น ทำให้ผมสนุก และตื่นเต้นไปกับการทำงาน”

     การอยู่ร่วมกับคนรุ่นใหม่ด้วยความเข้าใจ และไม่มีคำว่า “เด็กสมัยนี้” มาเป็นตัวแบ่งแยกหรือตัดสินพฤติกรรมต่างๆ เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทำให้ป๋าเต็ดสามารถระเบิดไอเดียใหม่ๆ ไปกับการสร้างอีเวนต์สนุก ภายใต้บริษัท แก่น 555 จำกัด ที่เขาก่อตั้งขึ้น ได้เรื่อยๆ

     และมากไปกว่านั้นคือการดึงเอาข้อมูลเก่าจากคลังประสบการณ์ส่วนตัวออกมาใช้ โดยเฉพาะในยุคที่ป๋าเต็ดยังเป็นวัยรุ่นผู้คลั่งไคล้ในการฟังดนตรีทุกประเภท และตื่นเต้นกับการที่น้ำอัดลมยอดนิยมประจำครอบครัวอย่างเป๊ปซี่ ดึงนักร้องนักดนตรีระดับโลกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และสร้างหนังโฆษณาที่ชวนจดจำออกมาให้คนรุ่นใหม่ในยุคนั้นได้ตื่นตาตื่นใจ

 

     “ผมโตมากับสโลแกน เป๊ปซี่ดีที่สุด พร้อมๆ กับมีภาพจำของหนังโฆษณาในยุคที่พี่ปุ๊ – อัญชลี จงคดีกิจ กับทีน่า เทอร์เนอร์ มาอยู่บนเวทีเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ดังมากในยุคนั้น ถัดมาก็เป็นไมเคิล แจ็คสัน ที่มาเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ในบ้านเราด้วย ซึ่งผมว่าความผูกพันของคนแต่ละเจเนอเรชั่นกับเป๊ปซี่ไม่ใช่การเป็นแค่เครื่องดื่ม แต่มันมากกว่านั้น เหมือนเราคุยภาษาเดียวกันอยู่ เลยรู้สึกถูกคอและเป็นพวกเดียวกัน”

     “เป๊ปซี่อยู่กับคนรุ่นใหม่มาโดยตลอด อะไรก็ตามที่ใหม่ที่สุด และคนรุ่นใหม่กำลังพูดถึง มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงโดยเป๊ปซี่เสมอ อย่าง 2 เรื่องที่ผมสนใจมากคือ เรื่องของดนตรีและฟุตบอล ก็ทำให้ผมเฝ้ารอคอยแคมเปญจากเป๊ปซี่ทุกปี ว่าปีนี้เป๊ปซี่จะเล่าเรื่องอะไร และผมรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ดูแคมเปญใหม่ของเป๊ปซี่”

     ด้วยสูตรสำเร็จเดียวกันนี้เอง ที่ป๋าเต็ดหยิบจับเอาแรงบันดาลใจที่ได้รับ มาสร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้คนรุ่นใหม่ตื่นเต้นไปกับทุกโปรเจคท์ของเขาเช่นกัน

     แบรนด์ที่อยู่คู่วัฒนธรรมป๊อบมาทุกยุคสมัย เป็นส่วนหนึ่งของป๊อบมาตั้งแต่อดีต และครองความนิยมของคนรุ่นใหม่ และกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัยของคนในทุกเจเนอเรชั่น เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค ไม่มีเปลี่ยน

 

[Advertorial]