8 เพลงนี้ไม่เกี่ยวกับความรัก: จักรวาลนี้ไม่ได้มีแค่ความรักสักหน่อย

โลกนี้ยังมีอีกหลายเพลงที่ไม่ได้พูดเรื่องความรัก อกหัก ยังมีอีกหลายประเด็นที่ศิลปินอยากจะหยิบมาพูดถึง ให้ผู้ฟังได้หยุดคิดและนึกไตร่ตรอง หรือได้มีประสบการณ์ร่วมกับศิลปิน

สมองส่วนที่รับรู้เพลงนั้นเป็นส่วนเดียวกับสมองส่วนที่ให้ความรู้สึกดี เมื่อการรับรู้เพลงเป็นเรื่องความรู้สึก ก็คงไม่แปลกที่โลกนี้จะมีเพลงเกี่ยวกับความรักมากมายล้นโลก ฟังอย่างไรก็ไม่หมด แต่มีบทเพลงที่ถูกใช้เพื่อถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ในแง่มุมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความไม่ยุติธรรม รณรงค์เรื่องต่างๆ จินตนาการถึงดินแดนที่ไม่มีอยู่ ความตาย หรือหลายสิ่งในชีวิตที่น่าสนใจไม่แพ้ความรักเลย

หากอยากจะลองฟังเพลงอื่นๆ ดูบ้าง เราขอแนะนำ 8 เพลงนี้ และอ่านเรื่องราวของเพลงไปด้วยกัน

 

1. เพลงพูดเรื่องการเรียนจบและใบปริญญา

Solitude is Bliss – "กระดาษ"

 

“จบเสียที บุคคลที่โลกรอ จบเสียที บุคคลที่เรารอ
เวลา และโอกาส อิสรภาพ หลังวันที่รอ
เธอต้องใช้มันเอง ไม่มีแปรงสีให้ละเลง ไม่มีใครจะมาร่วมครื้นเครง ไปกับเธอ”

เพลงนี้ เฟนเดอร์ ฟรอนต์แมนของวง Solitude is Bliss แต่งให้กับพี่สาวของเขาเมื่อตอนที่เพิ่งจบปริญญา พูดถึงอิสรภาพหลังได้ใบปริญญาที่เราต้องคิดต่อเองว่าจะทำอะไรต่อไป หลุดจากสถานศึกษาแล้วชีวิตจะดำเนินอย่างไรต่อ ยังมีอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ และปริญญาก็เป็นแค่กระดาษเท่านั้นแหละ

 

อยากให้ลองฟังเวอร์ชั่นสดในงาน Crossplay A Side เพิ่มมิติของเพลงไปอีกระดับ อยากฟังเพลงนี้สดอีกหลายๆ รอบไม่รู้เบื่อ

 

2. เพลงพูดเรื่องการเมือง คอร์รัปชั่น ความไม่ยุติธรรมในสังคม

Bomb at Track – "อำนาจเจริญ"

“ยอมทิ้งศักดิ์ศรีทิ้งตัวตนเปลี่ยนตัวเองเป็นขอทาน
ความสุขสำราญเหนือสิ่งอื่นใดแต่ที่มึงขาดไปคือความเป็นคน

สัตว์หน้าคนใช้อำนาจเงินเพื่อปกปิด พวกปรสิตสูบเลือดเนื้อเพื่อคงอยู่
พวกมึง มันก็ไม่ต่างจากสัตว์ ทำปากดี หากแต่ว่าไม่เคยปฎิบัติ”

เนื้อหาก็ชัดเจนแล้วว่าเพลงนี้พูดถึงการใช้อำนาจเงินเพื่อทำสิ่งผิด ยอมทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อผลประโยชน์ในบ้านเมืองสังคม ไม่มีความยุติธรรมในประเทศนี้ ในมิวสิควิดีโอมีพูดถึงกรณีที่วัยรุ่นทำร้ายชายพิการ คนจนซวยเสมอ

หลายคนคงรู้แล้วว่าวงนี้เล่นสดสนุก ปลุกพลังงานฮึกเหิมเกรี้ยวกราดของคนหนุ่มสาวที่ต่อต้านระบบ authority ที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน พลังของความโกรธเคืองและถูกกดขี่มักรุนแรงเสมอเมื่อระเบิดออกมา

 

ตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นคนที่เด็กกว่าเราเห็นความไม่แฟร์ในโลก ออกมาพูดถึงความไม่ยุติธรรมในสังคมที่เราอยู่ผ่านบทเพลงเพื่อเป็นเสียงให้คนที่ไม่ยอม

“พวกกูจะมาปฏิวัติให้พวกมึงไม่มีที่ยืน  กูจะเอาคืนยุติธรรม ที่พวกมึงไม่เคยมี”

 

3. เพลงพูดเรื่อง ‘ป่าไม้’ และ ‘สัตว์ป่า’

River Rhyme – "พนาไรห์ม"

“เมื่อไหร่พวกมึงจะหยุด หรือต้องให้โลกนี้มันเหลือแค่มนุษย์”

 

โปรเจกต์เพลง "พนาไรห์ม" เป็นบทเพลงที่ชาว River Rhyme ได้รวมศิลปินฝีปากจัดกว่า 10 ชีวิตมาร่วมส่งเสียง ตั้งใจเขียนขึ้นเพื่อพูดแทนสัตว์และป่า โดยหวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะได้ยิน และหยุดกระทำใดๆ ที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม

ในบทเพลง มีพูดถึงสัตว์ที่ถูกยิงที่ห้วยขาแข้ง พูดประเด็นเขื่อนแม่วงก์ รวมถึงตั้งคำถามว่าทำไมมนุษย์ต้องอยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ทำร้ายระบบนิเวศเพื่อผลประโยชน์

ฟังเพลง "พนาไรห์ม" ในฟังใจ

“วันนี้ผมออกมาพูดแทนสัตว์ คุณจะไปรู้อะไรในดงป่าคอนกรีต
สัตว์ไม่มีสิทธิ์เถียง คนไม่มีสิทธิ์เขียน ภาพไม่มีสิทธิ์เปลี่ยน ธรรมชาติไม่มีเสียง
เราคือองค์ประกอบ ปากเราคือกระบอก ไม่ว่าช้างกระรอก มันต้องมีสิทธิ์รอด
มันต้องเป็นธรรม ไม่ใช้ให้วิ่งหนีซ่อน บางคนอยู่ในป่าก่อไฟ”

 

4. เพลงพูดเรื่อง ‘ความตาย’ และ ‘สังขาร’

Jinta – "ร่างกาย"

 

“บางสิ่งเคยสวยงามเมื่อมองรูปกาย บางทีอาจคล้ายคนนิทราหลับฝันไป แค่ฝันไป”

เพลงนี้ธีร์แต่งขึ้นเพื่อให้ผู้ฟังได้หยุดคิดและพิจารณาถึงร่างกายของตัวเองดู ว่าไม่เที่ยงและดับลงไปได้ หลายคนหวาดกลัวความตายของตัวเอง ทั้งที่เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้นวันใดวันหนึ่ง

“ฝันเพื่อมาพบความจริง
บางสิ่งที่สูญหาย ตลอดกาล

ร่างกายความสุขฉันที่เคยชื่นบาน
จางหายไป”

เพลงนี้เป็นเพลงมรณานุสติที่สวยงามเหลือเกิน คอยเตือนว่าวันหนึ่งจะจบลง ไม่เร็ว ก็ช้า อย่าได้หวาดกลัว

อ่านเกี่ยวกับเพลงนี้เต็มๆ ได้ใน คอลัมน์ระหว่างบรรทัด: ร่างกาย โดย Jinta

 

5. เพลงพูดเรื่อง ‘ชนชั้น’

Yena - "โถขี้"

 

“อยู่บนโลกเดียวกัน มีเพียงชั้นบรรยากาศเป็นหลังคา
อยู่ในเช้าวันจันทร์เดือนพฤษภาเดียวกัน เธอและฉันส้นเท้าก็เหยียบบนพื้นดิน”

อย่างที่รู้กันว่าวง เยนา มักจะทำเพลงที่ออกแนวเพื่อชีวิต อย่างเพลงนี้พูดเกี่ยวกับเรื่องราวของคนทั้งหลายในสังคมไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร ยากดีมีจนขนาดไหน ทุกคนก็ล้วนแต่ต้องขับถ่ายในโถส้วมเดียวกัน เปรียบดั่งอากาศที่เป็นของสาธารณะให้ทุกคนได้ใช้หายใจและดำเนินชีวิตไปร่วมกัน ดังนั้นอย่าได้แก่งแย่ง เบียดเบียน หรือดูถูกดูแคลนกันเลย

 

6. เพลงพูดถึง ‘กัญชา’

Srirajah Rockers – "นักกินผัก"

 

เพลงนี้ต้องตีความหมายไปอีกขั้นหนึ่ง เป็นเสน่ห์ในเพลงของวงสีชา เหมาะไว้ให้คนที่ชื่นชอบในภาษาให้ล้วงลึกลงไปในความหมายระหว่างบรรทัด โดยพูดถึงกัญชาแบบไม่ได้สื่อตรงไปตรงมาเพราะยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่  และพยายามใช้คำที่ไม่ดูรุนแรง ใช้การเปรียบเทียบ บอกว่า ‘ผัก’ ในที่นี้เป็นสิ่งอัศจรรย์

“เสาะหาทั่วทิศนานมา มนตราพืชผักแมกไม้
ส่องแสงสาดซ่อนพงไพร สร้างเสริมเศษเสี้ยวสุขสันต์

สุดท้ายก็เอามาดม เชยชมชวนสะกดใจฉัน
แจ่มใสสดชื่นทันควัน ผ่อนคลายแผ่วพริ้มพร้อมเพรียง”

วิน ฟรอนต์แมนผู้ชอบภาษาไทย เลือกใช้คำคล้องจองออกเสียงใกล้กันมาไล่เรียงอย่างสวยงาม ส่วนตัววินชอบแต่งกลอน ก็เลยเลือกคำมาใช้ในเพลงให้ดูสวยและสุภาพขึ้น

อ่านเกี่ยวกับเพลงนี้เต็มๆ ได้ใน คอลัมน์ระหว่างบรรทัด: นักกินผัก โดย Srirajah Rockers

 

7. เพลงพูดผีอำ

Inspirative – "กึ่งหลับกึ่งตื่น"

เพลงของ Inspirative เน้นแนว instrumental มักไม่ค่อยมีเนื้อเพลง แต่กับอัลบั้มนี้สื่อถึงประสบการณ์ผีอำ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์จริงของ นพ เลยเกิดไอเดียว่า น่าจะเล่นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของผีอำในหลายๆ มุม ประมาณว่า ผีคือใคร ทำไมมาอำ มาดีมาร้าย มาอำได้ยังไง ฯลฯ คิดทั้งในมุมไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ทั้งมุมพิศวง น่ากลัว โรแมนติก ไม่อยากให้เป็นมุมน่ากลัวเพียงอย่างเดียว 

“เหมือนมีบางอย่าง ยังตกค้างในใจ และฝังรากลึกเอาไว้ เหมือนเรา
อยากจะลุกก้าวเดินออกไป ทั้งที่ใจหมดไม่เหลือเรี่ยวแรงเคลื่อนไหว
เมื่อความฝันทับซ้อน ยอกย้อนความจริง คล้ายทุกสิ่ง เคว้งลอยคว้าง”

 

อุดหนุนเพลงวงนี้ได้ทาง Bandcamp ของวง

อ่านเกี่ยวกับเพลงนี้เต็มๆ ได้ใน คอลัมน์ระหว่างบรรทัด: กึ่งหลับกึ่งตื่น โดย Inspirative

 

8. พูดถึงศาสนาและความเชื่อ

Migrate to the Ocean – "เหตุผลที่ทุกคนสวดมนต์"

 

เนื้อหาในบทเพลงนี้ จะพูดถึงช่วงเวลาก่อนที่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะตาย โดยอธิบายได้ว่าเราสวดมนต์กันเพียงเพราะความกลัวเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราต้องเผชิญขณะที่ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตกำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะกลัวความตาย ที่ชีวิตไม่เคยประสบมาก่อน กลัวที่จะไม่ได้ไปสวรรค์ หรือกลัวสิ่งที่จะเกิดหลังเราจากโลกนี้ไป แต่สุดท้ายแล้ว ทุกคนล้วนมีเหตุผลที่เลือกจะสวดมนต์ในแต่ละโอกาสหรือความเชื่อที่แตกต่างกันไป

“ก่อนที่เธอจะต้องไปสวรรค์เธอต้องรอคอยอยู่ตรงนั้นวันเวลาเปรียบเหมือนภาพในความฝันนาฬิกาไม่มีความหมายไม่มีความหมายไม่มีความหมายมันไม่มีความหมายเลย”

 

 

 

เพลงของวง Migrate to the Ocean มีคำถามเชิงปรัชญาให้ขบคิดเสมอ อยากให้ทุกคนไปลองฟังกันเพื่อท้าทายสมองให้ครุ่นคิดถึงความหมายของเพลงที่ลึกลงไปมากกว่าที่ฟังผิวเผิน

คอลัมน์ระหว่างบรรทัด: เหตุผลที่ทุกคนสวดมนต์ โดย Migrate to The Ocean

 

หลายเพลงอาจจะพูดถึงประเด็นใหม่ๆ อย่างชัดเจน แต่บางเพลงก็ต้องตีความในความหมายที่ซ่อนอยู่ ฟังเผินๆ ผู้ฟังอาจจะคิดว่าหมายถึงความรัก แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นเรื่องราวอื่นอยู่เบื้องหลังข้อความเหล่านั้นที่เราต้องตั้งใจฟังกว่าเดิม

ขอยํ้าอีกครั้งว่าเพลงไม่ต้องเกี่ยวกับความรักก็ได้ รักไม่ใช่ทุกอย่าง ชีวิตยังมีอะไรอีกมากกว่านั้น และเพลงก็ยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายซ่อนอยู่ รอให้เราตั้งใจฟัง ค้นหาเรื่องราวและความหมายที่ซ่อนอยู่ในเพลง