“River Rhyme” จากสังเวียนแร็ปแบทเทิล สู่โลกความจริงในวงการเพลง | Sanook Music

“River Rhyme” จากสังเวียนแร็ปแบทเทิล สู่โลกความจริงในวงการเพลง

“River Rhyme” จากสังเวียนแร็ปแบทเทิล สู่โลกความจริงในวงการเพลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจากเวทีประกวดร้องเพลงและประกวดวงดนตรีแล้ว ในปัจจุบันนี้วงการเพลงไทยก็มีการแข่งขันแร็ปอย่าง The War Is On ของทีมงาน Rap Is Now ที่กำลังเป็นกระแสด้วย เพราะการแข่งขันที่ดุเดือดและกระแสโซเชียลมีเดียของผู้ชม ก็ทำให้ตัวรายการนั้นเป็นที่จับตามอง จนทำให้ในปี 2018 ก็จะมีการแข่งขันแร็ปรายการ Show Me The Money และ The Rapper ที่เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างแร็ปเปอร์แถวหน้าคนใหม่ของวงการเพลงไทย

 

ซึ่งถ้าพูดถึงศิลปินแร็ปที่มีชื่อเสียงจากการแข่งขัน Rap Is Now หลายคนต้องนึกถึง 3 แร็ปเปอร์จากวง River Rhyme อย่าง จอห์น - วุฒิชัย รวมแสง, BLACKSHEEPRR (ต็อป - ธนภัทร พุทธกะ) และ Maiyarap (แชมป์ - นครินทร์ จรูญวิทยา) ซึ่งล่าสุดพวกเขาเองก็มีผลงาน EP แรกในชีวิต Last Night ออกมาให้แฟนเพลงได้ชมกัน โดยชื่อของวงนั้นมาจากคำว่า River ที่แปลว่า แม่น้ำ และ Rhyme ที่หมายถึงความคล้องจอง ซึ่งตรงกับความตั้งใจของสมาชิกที่อยากให้ดนตรีฮิปฮอปของวงนั้นสามารถไหลเข้าไปอยู่กับดนตรีแนวอื่นๆได้

 

โดยล่าสุดทาง Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับสามหนุ่มวง River Rhyme ถึงจุดเริ่มต้นของวง รวมไปถึงผลงานปัจจุบันและแผนการในอนาคตของพวกเขา ในฐานะศิลปินที่หลายคนกำลังจับตามอง 

 

     

ต่างเส้นทาง สู่การเป็น River Rhyme

 

ต็อป :   "ตอนแรกผมชอบฟังดนตรีที่มีแนวคล้ายฮิปฮอป เป็นแนวเพื่อชีวิตที่มีการเล่าเรื่องอย่างเช่นเพลง คาราบาว ครับ แต่ผมกลับไม่ชอบร้องเพลงแนวเพื่อชีวิต เพราะคิดว่ามันมีเนื้อหาที่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินไปสำหรับผม ก็เลยหาฟังเพลงแนวอื่นเลยเจอเพลงวง Thaitanium ก็มองว่าเพลงฮิปฮอปคือเพลงเพื่อชีวิตแบบหนึ่ง ก็เลยลองเริ่มทำเพลงดูตอนอายุ 17 ครับ ตอนแรกผมก็อยู่วง สี่แคว แต่รู้สึกเส้นทางไม่ตรงกันเลยออกมาทำวงเองเป็น River Rhyme  โดยก่อนหน้าที่จะมาเป็นศิลปินเต็มตัว ผมเองก็ทำอาชีพเป็นช่างตัดผมครับ"

แชมป์ : "ผมเริ่มสนใจเพลงฮิปฮอปตอนดูภาพยนตร์ที่จะมีเพลงตอนจบ อย่างหนัง Fast & Furious มันก็เป็นเพลงที่สนุกมากฟังแล้วสะใจ ก็เลยเริ่มฟังเพลงฮิปฮอปของต่างประเทศก่อนแล้วมาเป็นศิลปินไทยอย่าง Thaitanium เสร็จแล้วก็ฟังเพลงมาเรื่อยๆ และมาเจอวง สี่แคว ซึ่งก็คือ River Rhyme เดิมครับก็เลยได้มาร่วมงานกับพี่ๆครับ" 

จอห์น : "ตอนแรกผมเป็นศิลปินร้องเพลงแนวอื่นและทำงานเป็นช่างอินเตอร์เน็ตมาก่อน แต่ตอนเด็กก็ฟังเพลงแนวพี่ ดาจิม (สุวิชชา สุภาวีระ) แต่ไม่ได้ทำเพลงแนวนี้จริงจัง จนมาเจอต็อปและเริ่มทำเพลงฮิปฮอปจริงจังครับ"

 

สมรภูมิ Rap Is Now ที่เปลี่ยนชีวิต

 

ต็อป : "ตอนนั้นผมอยากหาเพื่อนเพิ่ม และอยากเจอผู้คนใหม่ๆ ก็เลยชวนเพื่อนๆลองแข่งดู เพราะสมัยตอนที่รายการ Rap is Now เริ่มในปี 2009 ตอนนั้นยังไม่มีการแข่งขันร้องเพลงอย่าง The Voice เลยครับ ช่วงแรกที่ผมเริ่มเเข่งรายการ The War is On หรือ Rap is Now ยังเป็นเหมือนปาร์ตี้เล็กๆครับ เป็นออกแนวทำเพลงแข่งกัน อัดส่งมาโชว์มาด่ากัน คือเป็นรุ่นแรกของรายการแรกครับ พอเริ่มประสบความสำเร็จก็ออกจากงานประจำเลยครับ (หัวเราะ) ก็ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเทื่อก่อน แต่ถ้าในอนาคตพวกเรามีงานเยอะกว่านี้ ชีวิตก็น่าจะเปลี่ยนไปจากตอนนี้อีกพอสมควรเลยครับ"

 

 

สหกรณ์ทางดนตรี ที่ช่วยสร้างสรรค์ผลงาน

 

ถึงแม้จะไม่มีค่ายเพลงใหญ่คอยหนุนหลัง แต่ River Rhyme เองก็ได้ร่วมงานกับ Malama ที่เป็นสังคมดนตรีแนวสหกรณ์ ที่จะสนับสนุนและให้อิสระในการทำงานของศิลปิน ร่วมกับวงดนตรีอย่าง Safeplanet, Mattnimare และอีกหลายศิลปิน โดยทางวงได้เล่าประสบการณ์ในการทำงานว่า

จอห์น : "พวกเราทำงานกับทาง Malama ที่เป็นสหกรณ์ดนตรี มันจะต่างจากการทำงานค่ายตรงที่ ถ้าเป็นค่าย เขาจะสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวตนศิลปิน แต่ถ้าเป็นสหกรณ์หรือ Collective แบบนี้เราจะทำอะไรก็ได้ อยากทำเอ็มวีแบบไหนก็ส่งเรื่องเข้าไปให้ทางทีมอนุมัติ ซึ่งทาง Malama เองก็เป็นคนที่พาเราออกไปเจอผู้คนครับ ที่ไม่รู้จักวงเรา"

ต็อป : "ตอนนี้ใน Malama ก็มีพูดคุยเรื่องโปรเจ็คกับศิลปินคนอื่นในทีมเหมือนกัน ในปี 2018 น่าจะมีอะไรให้ติดตาม เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนยุ่งกันมากครับ"

 

จอห์น 

การทำเพลงของตัวเอง เพื่อแสดงให้คนเห็นตัวตนฮิปฮอปที่แตกต่าง

 

ต็อป : "ตอนนั้น JOOX เปิดให้บริการพอดี ก็เลยอยากลองทำเพลงในแบบฉบับพวกเรา ในแบบฉบับวงอินดี้ ก็จะทำเพลงให้สุดแนวไปเลยใน EP Last Night อย่างเพลง “Night” จะเป็นเพลงเหงา เพลงโหดๆก็อย่าง “Last” ส่วน “มากกว่าที่เธอรู้” เป็นเพลงหวานไปเลยครับ เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าเพลงแร็ปมีมากกว่าความดุดันและแรง กระแสก็ออกมาดีครับ

ส่วนผลงานเพลง “Night” ที่มีออกมาสองเวอร์ชั่น เพลงนี้ตอนแรกได้แรงบันดาลใจตอนนั่งฟังรายการ The Shock ก็ได้ไอเดียมาเริ่มเเต่งท่อนแรก ตอนนั้นน้องแชมป์งานเยอะอยู่ ก็เลยมีแค่จอห์นและผมในเวอร์ชั่นแรก พอทำเวอร์ชั่นสอง แชมป์ ก็ยังงานเยอะอยู่เลยชวนแร็ปเปอร์อีกคนจากรายการ Rap Is Now อย่าง UMA เข้ามา และปรับเพลงให้มีความเป็นไทยมากขึ้นเพื่อให้เข้ากับ UMA ที่มีกลิ่นความเป็นไทยเดิมในการทำเพลง รวมถึงให้แชมป์มาเป็นพระเอกเอ็มวี เพื่อให้เอ็มวีของเพลงมันมีสมาชิกครบครับ"

 

 

ผลงานเดี่ยว ที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์

 

ต็อป : "ล่าสุดผมมีผลงานเพลงกับวง Harem Belle คือผม Live ในโทรศัพท์อยู่ แล้วมีสมาชิกในวง Harem Belle มาเขียนคอมเม้นท์บอกว่าอยากร่วมงานกับผม ตอนนั้นก็งงและเขียนว่ากลับไปด้วยว่าอย่ามาล้อเล่นนะพี่ สรุปพี่เขาเป็นสมาชิกจริงๆก็เลยได้ทำงานด้วยกัน ตอนนั้นผมก็เอาเพลงเก่าพี่เขามาคัฟเวอร์เล่น สักพักก็เลยได้ทำเพลง “อย่าเสี่ยง” ได้ปล่อยท่อนแร็ปดุๆ ในสไตล์ของผม ก็ดีใจที่ได้ใส่ความเป็นตัวเองเต็มที่ครับ ส่วนเพลงเดี่ยวผมก็พยายามจะทำอยู่ครับ เพราะแชมป์กับจอห์น ก็ทำเพลงเดี่ยวกันบ้างแล้ว"

จอห์น : "ผมกำลังจะมีผลงานเพลงที่ได้ร่วมงานกับศิลปินลูกทุ่งครับ ซึ่งจะเป็นใครนั้นก็ต้องรอติดตามชม จะเป็นเพลงที่พูดถึงการกีดกันแนวดนตรี เพราะสมัยก่อนผมเองก็เคยมีความรู้สึกแบบว่า ถ้าไม่ชอบเพลงแนวไหนก็จะไม่ฟังเลย ซึ่งจริงๆมันเป็นเรื่องไม่ดี ก็เลยอยากบอกให้ทุกคนว่าไม่ควรปิดกั้น ในอนาคตผมเองก็อยากร่วมงานกับคนใกล้ตัวอย่างแร็ปเปอร์ที่เเข่งด้วยกันมา และก็อยากทำอัลบั้มของตัวเองให้เสร็จครับ เพราะตอนนี้มีเพลงเยอะมากที่ยังไม่เสร็จ"

แชมป์ : "ผมมีเพลง Try To” ที่เขียนเมื่อสองปีที่แล้ว ก็เอามาทำให้ลงตัวมากขึ้นให้ตรงกับชีวิตผู้ฟัง ก็รู้สึกตกใจมากที่เพลงนี้มีคนฟังสิบล้านแล้ว ช่วงที่ผ่านมาผมเองก็ได้ขึ้นคอนเสิร์ตกับศิลปินหลายคนที่ชอบด้วยอย่างเช่น Twopee Southside (พิทวัส พฤกษกิจ) ตอนนี้ผมเองก็ตั้งใจอยากมีคอนเสิร์ตเดี่ยวหรืออย่างน้อยคอนเสิร์ตของวงเหมือนกันครับ"

 

 

 

เหตุการณ์ประทับใจบนเวทีคอนเสิร์ต

 

ต็อป : "ก่อนหน้านี้ทางวงเองก็ได้ไปแสดงที่เชียงใหม่ ซึ่งตอนแรกคนดูน้อยมาก แต่พอถึงคิวพวกเรา คนก็มาออกมาดูเยอะมาก แถมยืนดูกลางฝน เราก็เลยลงไปเล่นกับคนดูกลางสายฝน คือประทับใจมากเพราะเขาให้ใจเราจริงๆ วันนั้นพวกเราเล่นเต็มที่จนเครื่องดนตรีพังเลยเพราะฝน (หัวเราะ)"

 

 ต็อป BLACKSHEEPRR

 

ความสุขในที่ได้เห็นวงการฮิปฮอปเติบโต

 

ต็อป : "ผมรู้สึกดีมากครับที่ได้เห็นวงการฮิปฮอปช่วงนี้ สมัยก่อนนอกจากพวกเราแล้ว ศิลปินมีน้อยมาก แต่เดี๋ยวนี้ศิลปินใต้ดินก็เติบโตขึ้นมามาก คือเรารู้สึกดีมากที่มีศิลปินขึ้นมาแข่งกับเราในสมัยนี้ ศิลปินแต่ละคนฟอร์มสดมากและมีแนวทางชัดเจน"

จอห์น : "วงการฮิปฮอปในปัจจุบันเหมือนในอเมริกาเลยครับ ที่ฟีทกันไปทั่ว มีผลงานออกมาให้ชมเรื่อยๆ คืออาจจะยังไม่เยอะเหมือนที่อเมริกา แต่ก็โตขึ้นเรื่อยๆ ศิลปินฮิปฮอปแร็ปเปอร์มันมีข้อดี ตรงที่มันฟีทเจอริ่งหรือแจมกันง่าย ไม่เหมือนวงดนตรีที่มีสมาชิกหลายคนที่เวลาขึ้นแจมกับศิลปินแนวอื่นมันจะยาก แต่แร็ปเปอร์อย่างพวกเราจะไปแจมกับศิลปินคนอื่นก็ได้ ไปร่วมงานกับศิลปินแนวไหนก็ได้"

 

โซเชียลมีเดีย คือเชื้อเพลิงจุดไฟดนตรีฮิปฮอปในไทย

 

ต็อป : "สำหรับผมสิ่งที่ทำให้เด็กชอบเพลงฮิปฮอปมากขึ้น อาจเป็นเพราะการหาเพลงฟังง่ายขึ้น สมัยก่อนถ้าอยากฟังเพลงสากลต้องซื้อซีดีเถื่อน แต่เดี๋ยวนี้มี YouTube, Streaming อย่าง JOOX ที่ทำให้เด็กและวัยรุ่นไทยได้ฟังเพลงฮิปฮอปมากขึ้น แต่โซเชียลก็มีข้อเสียคือการที่คนมองเพลงเป็นของฟรีครับ ก็หวังว่าในอนาคตความคิดแบบนี้จะเปลี่ยนไปครับ พวกเราเองก็เคยมีความรู้สึกท้อตอนมีคนเอาเพลงเราไปปล่อยให้ฟังแบบไม่ถูกต้อง แต่โชคดีที่ค่าย Malama พวกเราโหดครับ แบบมาปล่อยเพลงเถื่อนมา ช่อง YouTube ที่ปล่อยเพลงก็หายไปเลยในวันเดียว (หัวเราะ)"

 

แชมป์ Maiyarap

 

รายการ The Rapper และ Show Me The Money ที่น่าติดตามในปี 2018

 

ต็อป : "สองรายการนี้ก็เป็นอีกเหตุผลที่พิสูจน์ว่ารายการฮิปฮอปมาแรงจริงๆ อย่าง Show Me The Money นี่เป็นรายการดังจากเกาหลีใต้ ส่วน The Rapper พวกผมนี่อยากลงเเข่งมาก เพราะมันเป็นสายแนวแร็ปเปอร์ดุๆ มาสู้กัน มีใช้คำแบบ "กู มึง" ได้ ในขณะที่ Show Me The Money นี่ใช่คำพวกนี้ไม่ได้ อีกอย่างที่ผมสนใจ The Rapper คือกรรมการครับ เพราะแต่ละคนที่เปิดตัวออกมาไม่ธรรมดาจริงๆ

ผมอยากให้ทุกคนที่เข้าเเข่งมั่นหน้าครับ คือถ้าไม่มีความมั่นใจคุณจะไม่ได้เข้ารอบแน่นอน เพราะคุณจะไม่สามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีหรือคุมสติได้ ซึ่งมันอาจจะทำให้คุณพลาดตอนที่แข่งครับ ถึงแม้คุณจะเเต่งท่อนแร็ปเก่งก็ตาม"

 

River Rhyme บนเวทีโลก

 

ต็อป : "พวกเราไม่มีแพลนทำเพลงสากลครับ เพราะเราไม่มีพื้นฐานภาษาอื่นเลย แต่มีแพลนจะทำเพลงที่มี Subtitle ครับ เป็น ไทย จีน อังกฤษ เดี๋ยวนี้่วงการแร็ปภาษาไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว เพราะหลายคนสนใจวงการเพลงฮิปฮอปเอเชียมากขึ้น อย่างวงฮิปฮอปจีนไปโชว์แร็ปจีนที่เวทีในอเมริกาแบบมีคำบรรยาย Subtitle ขึ้นให้ และชาวตะวันตกเองก็พยายามศึกษาด้วยว่าเนื้อหาเพลงพูดถึงอะไร ถึงเป็นภาษาต่างประเทศก็ตาม"

 

 

ในขณะที่สัมภาษณ์วง River Rhyme ผมเองก็สัมผัสได้ว่าพวกเขาเป็นศิลปินที่มีไฟในการทำงานเยอะมาก ซึ่งล่าสุดทางวงเองก็ได้เข้ามาเป็น Artist Spotlight ของ JOOX ด้วย ซึ่งทาง Sanook! Music เองจะนำเรื่องราวของวงมาอัพเดตให้แฟนๆได้ชมแน่นอน 

Story : Sidhipong W.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook