กลับมาอีกครั้ง! กับ The Script Freedom Child Tour Live in Bangkok 2018 | Sanook Music

กลับมาอีกครั้ง! กับ The Script Freedom Child Tour Live in Bangkok 2018

กลับมาอีกครั้ง! กับ The Script Freedom Child Tour Live in Bangkok 2018
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หายไปจากเมืองไทยแค่ 2 ปี พวกเขาทั้ง 3 คนในนาม The Script เจ้าของเพลงฮิต The Man Who Can’t Be Moved” “Hall of Fame” “Superheroes” และล่าสุด Rain ก็เตรียมกลับมาสร้างความสนุก และส่งเพลงเพราะๆ ให้เราได้ฟังสดๆ กันอีกครั้งกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 2 ในประเทศไทย The Script Freedom Child Tour Live in Bangkok 2018 ในวันที่ 28 เม.ย. 2018 ปีหน้า ที่เดิม ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี

 

22859902_10155512251260399_75

The Script Freedom Child Tour Live in Bangkok 2018

วันที่ : 28 เมษายน 2018

สถานที่ : อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี

ราคาบัตร : เริ่มต้นที่ 2,000 บาท

วันจำหน่ายบัตร : 27 มกราคม 2018

ที่  Thaiticketmajor

 

 

คอเพลงสากลน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก The Script วงป็อปร็อคสัญชาติไอริชกับสมาชิกทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วย Danny O’Donoghue (นักร้องนำ), Mark Sheehan (มือกีต้าร์) และ Glen Power (มือกลอง)  เพราะนอกจากเพลงป็อปร็อคจากพวกเขาทั้งสามจะฟังเพราะฟังง่าย ติดหูง่ายแล้ว ซาวนด์ดนตรี รวมไปถึงน้ำเสียงของ Danny นักร้องนำที่มีเอกลักษณ์มาก ได้ยินแค่นิดเดียวก็รู้เลยว่าเป็นเพลงของ The Script แฟนเพลงชาวไทย และต่างประเทศต่างพากันฟัง The Man Who Can’t Be Moved” จนกลายเป็นเพลงโปรดของหลายคนในเวลาไม่นาน เพราะนอกจากดนตรีที่ไพเราะติดหูง่ายแล้ว เนื้อเพลงยังแปลกแหวกแนว แต่สละสลวย เล่าเรื่องเป็นฉากเป็นตอนผ่านเนื้อเพลงแต่ละท่อนราวกับเป็นสคริปต์ภาพยนตร์ตามชื่อวง

เราเองเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อซีดีอัลบั้มแรกในปี 2008 ตั้งแต่ได้ฟัง The Man Who Can’t Be Moved” แล้วก็ต้องหลงรักเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มนี้เพราะความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แนวดนตรีที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นป็อปสีเทาๆ ที่มีพลัง มีชั้นเชิงในการเขียนเพลง และเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลงอย่างตรงไปตรงมา ชนิดที่ฟังไปดูเนื้อเพลงก็เข้าใจเนื้อหาของเพลงทั้งหมดได้ไม่ยาก ทั้ง We Cry”, “Breakeven”, “Talk You Down”, “Before the Worst” และเพลงที่เราชอบมากอีกเพลงคือ If You See Kay”

The Script กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มที่ 2 ในปี 2010 ที่มีชื่อว่า Science & Faith ที่คราวนี้คว้าอันดับ 1 ที่ไอร์แลนด์บ้านเกิดได้สำเร็จกับซิงเกิล For the First Time” อีกเพลงซึ้งๆ ที่แฟน The Script ติดดาวให้เป็นเพลงโปรดในดวงใจ ตามมาด้วย Nothing”, “If You Ever Come Back” และ Science & Faith” ที่โดนใจชาว The Script Family มากพอกัน

 

22008326_10155436027070399_73

 

แต่ที่เรียกเรตติ้งให้วงกลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง เห็นจะเป็น Hall of Fame” ซิงเกิลแรกของอัลบั้มที่ 3 ที่ใช้ชื่อว่า #3 ปลุกกำลังใจให้ใครหลายๆ คนที่กำลังหมดไฟให้ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง ความพิเศษของซิงเกิลนี้นอกจากจังหวะดนตรีจะฮึกเหิมจนถูกนำไปใช้ประกอบโฆษณา และโปรโมตการแข่งขันกีฬาต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ยังได้ will.i.am จาก The Black Eyed Peas มาร่วมร้องร่วมแต่งเพลงนี้ให้มีความอิมแพ็คมากขึ้นด้วย จึงทำให้ซิงเกิลนี้ทำยอดขายได้ X6 Platinum สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ The Script แต่หากพูดถึงเพลงที่มีเนื้อเพลงสละสลวยกินใจ และได้รับการยกย่องจากสื่อไม่แพ้เพลงอื่นๆ ก็เห็นจะเป็นเพลง "Six Degrees of Separation" และ If You Could See Me Now” ที่เราบอกได้เลยว่ายังคงความเป็น The Script เอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยมทุกอณู

มาถึงอัลบั้มที่ 4 กับ No Sound Without Silence พวกเขาเลือกที่จะเปิดตัวด้วยซิงเกิล "Superheroes" ที่เป็นเพลงจังหวะสนุกๆ เนื้อหาดี ปลุกกำลังใจคน และยังเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของบุคคลที่ 3 ราวกับสคริปต์บทภาพยนตร์เหมือนเดิม ต่อด้วย No Good in Goodbye” และ “Man on a Wire” ที่ยังคงไพเราะติดหูง่าย เป็นป็อปร็อคมีพลัง และเป็นสไตล์ของ The Script เหมือนเดิมทุกเมโลดี้

หลังจากปล่อยให้แฟนเพลงคิดถึงอยู่ 3 ปี The Script ก็กลับมาพร้อมอัลบั้มที่ 5 กับ Freedom Child ที่คราวนี้มากับซาวนด์แปลกหูในซิงเกิลแรก Rain ผสมดนตรียอดนิยมแนวทรอปิคอลอิเล็กทรอนิกลงไปกับดนตรีป็อปร็อก แม้ว่าแฟนเพลงหลายคนจะเกิดอาการ culture chock กันไปบ้าง แต่หากได้ลองฟังเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มนี้อย่าง Divided States of America” หรือ Written in the Scars” จะทราบได้ทันทีว่า The Script คนเดิมยังอยู่ ที่เพิ่มเติมคือเพลงสนุกๆ จังหวะกึ่งแดนซ์ที่น่าจะเตรียมเอาไว้เล่นสดโดยเฉพาะ (หลายเพลงอยู่เหมือนกัน) โดยเฉพาะเพลง Divided States of America” ที่เนื้อเพลงคมคายบาดลึกใจคนอเมริกา และทั่วโลกไม่น้อยเหมือนกัน

ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีมืออาชีพแน่นๆ เนื้อเพลงคมคาย และเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์ส่งตรงจากไอร์แลนด์ ประเทศที่เรื่องของเพลง ภาพยนตร์ วรรณกรรม และศิลปะไม่เป็นรองชาติไหนแล้วล่ะก็ อย่าลืมเคลียร์คิวปลายเดือนเมษายนให้ว่าง เก็บเงินไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วเตรียมเปย์ให้กับวงดนตรีระดับโลกวงนี้กัน

 

____________________

Story : Jurairat N.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook