ย้อนวันวาน! ยุคแห่งความรุ่งเรืองของเพลง HipHop ในเมืองไทย | Sanook Music

ย้อนวันวาน! ยุคแห่งความรุ่งเรืองของเพลง HipHop ในเมืองไทย

ย้อนวันวาน! ยุคแห่งความรุ่งเรืองของเพลง HipHop ในเมืองไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันศิลปินฮิปฮอปหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย พวกเขามี Passion และความตั้งใจที่จะให้เพลงฮิปฮอปเริ่มกลับมาอีกครั้ง  มันทำให้เราย้อนคิดถึงศิลปินฮิปฮอปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งเหมือนเป็นยุคทองของเพลงฮิปฮอปในบ้านเรา

thaitanium

ศิลปินฮิปฮอปหลายๆ วงมีแรงบันดาลใจจากศิลปินฮิปฮอปอเมริกัน เช่น “Thaitanium” พวกเขามีสมาชิก 3 คน มีที่มาที่แตกต่างกัน ขันเกิดที่กรุงเทพฯ เดย์เกิดที่เชียงใหม่ และเวย์เกิดและโตที่นิวยอร์ก เริ่มแรก ขันและเดย์ได้รู้จักกันในขณะที่พวกเขาไปเรียนที่อเมริกา จากนั้นเมื่อกลับมาประเทศไทย พวกเขามีผลงานร่วมกัน จนกระทั่งมาเจอเวย์ พวกเขาทั้งสามคนกลับไปอเมริกาและได้ทำอัลบั้มร่วมกันในชื่อ “Thaitanium”  เพลงของเขาที่ฮิตติดหู  เช่น “ยักไหล่” ,“ทะลึ่ง” หรือถ้าเป็นในช่วงล่าสุด ก็คือ “ไม่ไหวแล้ว”  Thaitanium ถือเป็นวงที่ปลุกกระแสเพลงฮิปฮอปให้กลับมา และเป็นวงที่อยู่อันดับต้นๆของเมืองไทยเลยทีเดียว

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


อีกกลุ่มศิลปินฮิปฮอปที่ขาดไม่ได้เลยคือ ก้านคอคลับ กับศิลปินฮิปฮอปชื่อดัง อย่างเช่น “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” เขาเป็นสมาชิกในวงสิงห์เหนือเสือใต้ ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ มีเพลงดังอย่าง “นอน” และต่อมาได้ออกเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยว ซึ่งมีเพลงเพลง “ชูใจ” ที่เขาแต่งให้กับลูกสาว และต่อมาเขาก็ได้มีผลงานร่วมกับศิลปินชื่อดังอีกหลายคนในฐานะศิลปินรับเชิญ

Buddha Bless

สุดท้ายศิลปินที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ “Buddha Bless”  จาก ก้านคอคลับ อีกเช่นเดียวกัน พวกเขามีสมาชิกทั้งหมด 3 คน นั่นคือ อุ๋ย–นที เอกวิจิตร, เอ็ม–กิตติพงษ์ คำสาตร์ และ โต้ง–สุรนันต์ ชุ่มธาราธร หลายๆคนจะจำเขาได้จาก สัญลักษณ์ประจำตัวของวง ที่เป็น เขียว เหลือง แดง และเพลงที่ติดหู อย่างFire”, “ลืมไปก่อน”และ “ชิงหมาเกิด” เป็นต้น

 

จะเห็นได้ว่าศิลปินฮิปฮอปในยุคทองนี้มีความเอกลักษณ์ความเป็นตัวตน เพลงของพวกเขายังคงได้ยินตามสถานบันเทิงต่างๆ และจนทุกวันนี้พวกเขาก็ยังโด่งดังและมีชื่อเสียงมากในฐานะที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่และช่วยผลักดันให้เพลงฮิปฮอปยังคงอยู่ในวงการเพลงเมืองไทยไม่จางหายไป

ขอบคุณภาพจาก Facebook Buddhabless

Story : Ellie L.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook