Glastonbury Festival เทศกาลที่คนรักดนตรีต้องไป โดย อนุสรณ์ สถิรรัตน์ | Sanook Music

Glastonbury Festival เทศกาลที่คนรักดนตรีต้องไป โดย อนุสรณ์ สถิรรัตน์

Glastonbury Festival เทศกาลที่คนรักดนตรีต้องไป โดย อนุสรณ์ สถิรรัตน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับตั้งแต่เทศกาลดนตรีกลางแจ้ง Woodstock เกิดขึ้นในปี1969 อันเป็นเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่และมีคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 4 แสนคนเป็นต้นมา วงการดนตรีไม่เคยขาดแคลนเทศกาลดนตรีกลางแจ้งอีกเลย แม้ในยุคก่อนจะไม่จัดบ่อยและหลายแห่งอย่างทุกวันนี้ แต่จัดทีไรก็เป็นที่ฮือฮาและถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Monster of Rock ที่รัสเซีย Reading Festival ที่อังกฤษ US Festival ที่สหรัฐอเมริกา Summer Sonic ในญี่ปุ่น และ Wacken Open Air ในเยอรมนีที่เป็นเวทีสำหรับดนตรีแนวเฮฟวี เมทัลโดยเฉพาะ

บางเทศกาลจัดเป็นประจำทุกปีจนเป็นธรรมเนียมและธุรกิจไปแล้ว แต่บางเทศกาลก็มีครั้งเดียว เพื่อเป็นที่ระลึกในวาระต่างๆที่สำคัญในวงการดนตรี อาทิ Live Aid ที่อังกฤษในปี1985 คนดู 75,000 คนเต็มความจุสนามเวมบลีย์เดิม ควบคู่ไปกับจอห์น เอฟ เคเนดี สเตเดียม ในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐฯ ท่ามกลางคนดู 1 แสนคน ซึ่งใช้เครือข่ายทีวีถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมให้คนดูสองฝั่งมหาสมุทรได้ดูไลฟ์ของทั้งสองสนามพร้อมกัน

16-glastofest-andrewallcock-1

ในยุค70s’-80s’ เทศกาลดนตรีกลางแจ้ง หรือระดับสเตเดียมที่มีคนดูมากกว่า 50,000 คนขึ้นไป ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก วงดนตรีหรือศิลปินดังๆมีไม่กี่รายที่จัดอยู่ในระดับสเตเดียม อาทิ Bon Jovi, Def Leppard, Michael Jackson (เมื่อครั้งมาแสดงที่กรุงเทพฯ ก็แสดงที่สนามศุภชลาศัย) ในระดับรองลงมาเป็นระดับอรีนา (Arena) ซึ่งเล็กลงจากสเตเดียมเล็กน้อย มีคนดูระหว่าง 15,000-40,000 คน ศิลปินระดับอรีนา ร็อค มักเป็นวงร็อค เฮฟวี เมทัล หรือป๊อปที่มียอดขายผลงานเป็นหลักแสนกอปปีขึ้นไป รายที่เคยมาเล่นที่อินดอร์ สเตเดียมบ้านเราก็จัดอยู่ในระดับนี้ คงมีคนดูมากที่สุดก็หมื่นต้นๆ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 6,000-10,000 คน เช่น Metallica, Europe, Def Leppard, Smashing Pumpins, Beastie Boys, Pearl Jam ธุรกิจคอนเสิร์ตระดับอรีนา สเตเดียมต่างๆจึงค่อยๆ ผันตัวเองมาเป็นเทศกาลดนตรีที่มีหลายวงหลายศิลปินแสดง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่สังกัดบริษัทจัดการเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการประสานงานและเก็บรายได้

เมื่อธุรกิจเทศกาลดนตรีรุ่งเรืองถึงขีดสุด เราจึงเคยผ่านมาเทศกาลที่จัดแบบตระเวนทัวร์มาแล้วอย่าง Ozz Fest, Vans Warped Tour ที่มีวงดนตรีกลุ่มหนึ่งราว 5-10 วง ตระเวนทัวร์ไปตามเมืองต่างๆ เป็นหลักธุรกิจอย่างหนึ่งที่ได้ผล เพราะเทศกาลเหล่านี้เปิดโอกาสให้วงเล็กๆได้มีเวทีแสดงฝีมือในฐานะวงเปิดหรือวงเล่นก่อนเวลาให้วงเฮดไลน์ ซึ่งอาจประสบความสำเร็จได้จากไลฟ์ของพวกเขา

ครั้นเมื่อเป็นเทศกาลดนตรีเต็มตัว วงดนตรีที่มาเป็นส่วนหนึ่งของไลน์อัพก็มากขึ้น จำนวนผู้ชมจึงเพิ่มขึ้นไปด้วยโดยปริยาย เรื่องของสเตเดียม อรีนาหรือฮอลล์จึงหมดไป ศิลปินระดับเพิ่งตั้งไข่มีแฟนเพลงไม่กี่ร้อยคนก็มีโอกาสเล่นในงานเดียวกับศิลปินบิ๊กเนมที่มีแฟนเพลงทั่วโลกนับล้านๆคนได้ สเกลงานใหญ่ขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น ระบบการจัดการรัดกุมขึ้น ในที่สุดก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนรักดูดนตรีแบบไลฟ์ โดยเฉพาะกลางแจ้งกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ที่ยากระดับสุดๆอีกอย่างก็คือ PA System ระบบเสียงกลางแจ้งที่ต้องใช้ทีมงานอาชีพและเปี่ยมประสบการณ์ ไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ทำได้ ที่จะคุมซาวน์ดของวงดนตรีต่างๆที่เล่นกลางแจ้ง แล้วให้คนฟังได้ยินอย่ากลมกลืนและเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยเงินลงทุนมหาศาลในแต่ละเทศกาล ปัญหาตรงนี้ก็ถูกจัดการได้ไม่ยาก

 

19-glastofest-andrewallcock-1

 

Glastonbury Festival เป็นอีกเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่เก่าแก่และจัดเป็นประจำในอังกฤษทุกปี นับแต่ปี1970 เป็นต้นมา ไลน์อัพแต่ละปีล้วนมีทั้งระดับบิ๊กเนม และอินดีฯที่กำลังจะประสบความสำเร็จในอนาคต จะว่าไปแล้ว เป็นเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่และน่าสนใจที่สุดของอังกฤษและของโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากที่เริ่มแรกจัดเพียงวันเดียว แต่ปี2017 จัดติดต่อกันถึง 5 วัน ตั้ง 21-25 มิถุนายน 

จะว่าไปแล้ว Glastonbury ไม่ใช่เพียงแค่เทศกาลดนตรีกลางแจ้งเพียงอย่างเดียว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วยมากมาย อาทิ เวิร์กชอป, กิจกรรมดูแลและบำรุงรักษาสุขภาพ, งานศิลปะและงานฝีมือต่างๆ ไปจนถึงฉายภาพยนตร์ และงานลีลาศต่างๆ อีกเหตุผลหนึ่งที่ Glastonbury แข็งแกร่งและเป็นที่สนใจของคนเพลงทั่วโลกก็คือ เฮดไลน์ของงานในแต่ละปี ล้วนคนมาแต่บิ๊กเนมที่ได้ยินชื่อแล้วความกระหายอยากชมเกิดขึ้นในทันที ปีนี้ก็คือ Radiohead, Foo Fighters รวมทั้ง Ed Sheeran ระดับที่รองลงมาก็มี Barry Gibb (พี่คนโตและเป็นคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ของ Bee Gees), Craig David, Phoenix, Lorde, Chic, Father John Misty เรียกได้ว่าครอบคลุมแทบจะทุกสายทุกแนว ทุกรุ่นเพื่อคนดูกลุ่มใหญ่ ไม่เน้นเพศหรือวัยเลย

 

friday_glastonbury_003

 

การที่ชาวต่างประเทศหรือทัวร์ต่างประเทศที่ไปอังกฤษ แล้วอยากไปสัมผัสเทศกาลดนตรีงานนี้ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสุดขีด เพราะการตระเวนชมดนตรีเล่นสดๆ ตลอด 5 วัน ไม่ใช่งานหมูๆ จำเป็นต้องมีงบประมาณเพียงพอ บริหารเวลาให้ลงตัว และที่สำคัญ ต้องบอกตัวเองไว้แต่แรกและวางแผนไว้เลยว่าอยากดูวงไหนเล่น ทำอย่างไรถึงจะได้ดูตั้งแต่ขึ้นเวทีจนลงจากเวที หรือแม้กระทั่งทำอย่างไรถึงจะมีโอกาสได้ไปยืนดูหน้าขอบเวทีตามใจปรารถนา 

ปัจจุบัน สังเกตได้ว่าเทศกาลดนตรีต่างๆในโลก เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของธุรกิจดนตรีและกลุ่มคนดูไปพร้อมๆกัน จากเทศกาลดนตรีเฉพาะแนวดนตรีเฉพาะกลุ่มผู้ชม ก็ปรับปรุงให้เป็นเทศกาลที่มีดนตรีทุกแนวเล่นในเทศกาลเดียวกัน เพื่อเอาใจคนดูทุกกลุ่มและเป็นธุรกิจครบวงจร สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าดนตรีไม่มีเส้นกั้นพรมแดนระหว่างแนวต่างๆ สไตล์ต่างๆอีกแล้ว  ศิลปินร็อคก็เล่นงานเดียวกับแร็ปได้ คันทรีก็เล่นร่วมงานเดียวกับซินธ์ป๊อปได้ ที่เหนืออื่นใด คนดูจะได้กำไรเต็มที่ ถ้าเป็นคนเปิดกว้างกับแนวดนตรีทุกประเภท

 friday_glastonbury_002

 

ส่วนใครที่อยากให้มีเทศกาลดนตรีต่างประเทศแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านเรา ก็คงต้องรอต่อไป เรามีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งสถานที่จัด จำนวนคนดู สปอนเซอร์ และที่สำคัญที่สุด หากคนดูยังไม่ซื้อซีดี เอาแต่โหลดเพลงฟัง ตัวศิลปินเจ้าของงานก็คงไม่มีความสุขที่จะมีเล่นดนตรีให้แฟนๆนักดาวน์โหลดฟังอย่างแน่นอนครับ

 

 

5 เทศกาลดนตรีกลางแจ้งยอดเยี่ยมของโลกที่ไม่ควรพลาด

15-glastofest-andrewallcock-1
01 Glastonbury

งานยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวของอังกฤษ ที่หลายคนตั้งปณิธานไว้ว่าต้องไปสัมผัสงานนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต ปีนี้เริ่ม 21-25 มิ.ย.

 

fujirock

02 Fuji Rock

จัดที่ยูซาวะ จังหวัดนีงาตะ ญี่ปุ่น วันที่ 28-30 ก.ค. เป็นเทศกาลที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น มีศิลปินในทวีปเอเชียและจากทั่วโลกไปร่วมงานคับคั่งทุกปี ไลน์อัพหลักปีนี้น่าจะเป็น Sigur Ros, RHCP, Wilco, Ben Harper

 

rock-in-rio

03 Rock in Rio

ชื่อริโอ แต่จัดในหลายๆเมือง เช่น ริโอ เดอ จาเนโร, ลิสบอน, มาดริด, ลาส เวกัส ปีนี้จัดที่ลาส เวกัสเมื่อพ.ค.ที่ผ่าน และที่ริโอ บราซิล 15-17, 21-24 ก.ย.นี้ เฮดไลน์คงหนีไม่พ้น Ed Sheeran, John Legend, Linkin Park, Metallica

 

lolla

04 Lollapalooza

จัดที่ชิคาโก อิลลินอยส์ 3-6 สิงหาคม ไลน์อัพปีนี้มี Muse, The Killers, Arcade Fire, Chance the Rapper และอีกมากมาย

 

warped 

05 Vans Warped Tour

เป็นเทศกาลที่จัดตามเมืองต่างๆในสหรัฐฯ เรียกว่าเป็นแบบงานเวียนในช่วง 16 มิ.ย.-6 ส.ค. ซึ่งเน้นงานร็อค ฮาร์ดร็อค พังก์ ฮาร์ดคอร์เป็นหลัก จึงมีศิลปินดังอย่าง Gwar, Sum 41, Good Charlotte ไปร่วมงาน

 

 

____________________________

สั้นๆ เกี่ยวกับผู้เขียน



นักเขียนประจำบก.นิตยสาร Music Express ตั้งแต่ปี 2527-2537
บก.บห.นิตยสาร Crossroads ตั้งแต่ปี 2537-2544
บก.บห.นิตยสาร Sound และ Metal Mag ตั้งแต่ปี 2545-2548

ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านขายแผ่นเสียง Records Hunter เปิดกิจการตั้งแต่ 2552-ปัจจุบัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook