Joox Moments - เพลงเปลี่ยนชีวิตของ ดา เอ็นโดรฟิน | Sanook Music

Joox Moments - เพลงเปลี่ยนชีวิตของ ดา เอ็นโดรฟิน

Joox Moments - เพลงเปลี่ยนชีวิตของ ดา เอ็นโดรฟิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชื่อนี้น่าจะอยู่ในใจคนฟังเพลงมามากกว่าสิบปี จากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่รักการร้องเพลง จนกลายเป็นต้นแบบศิลปินหญิงยุคใหม่ในวันนี้ เชื่อว่าเกินกว่าครึ่งของเด็กสาวที่ชอบร้องเพลง น่าจะมีพี่ “ดา” คนนี้เป็นต้นแบบ ทั้งน้ำเสียง และวิธีการร้อง เพลงของเธอหลายเพลงเรียกได้ว่าเป็นเพลงเปลี่ยนชีวิตใครหลายคน แต่ตอนนี้ เรามาหาคำตอบกันว่า เพลงอะไรเปลี่ยนชีวิตของตัวเธอเอง และเส้นทางกว่าจะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ เธอต้องเจอกับอะไรมาบ้าง...

เพลงอะไรทีทำให้ดาอยากจะเป็น นักร้อง หรือศิลปิน?

ดา : “ถ้าจะให้บอกเป็นเพลงๆ คงจะยากเหมือนกัน แต่ว่าถ้าให้บอกว่าเพลงแบบไหนที่มีอิทธิพล กับเรามากที่สุด น่าจะเป็นเพลงในยุค Alternative รุ่งเรื่องในบ้านเรา ตอนนั้นเราคิดว่ามันมีวงที่เท่ๆ เยอะมาก อย่างเช่น moderndog, Paper Jam แล้วเรารู้สึกว่าวงที่เป็น Rock Band มันดูเจ๋ง ดูเท่จังเลย อยากเล่นดนตรีได้ อยากร้องเพลงได้ อยากเป็นแบบวงพี่ๆ พวกนั้น”

แล้วดาชอบร้องเพลงมาตั้งแต่แรกเลยรึเปล่า?

ดา : “ถ้าดามีวง ตำแหน่งที่ว่างให้ดาเสมอ มักจะเป็นนักร้องเนี่ยแหละค่ะ โดนให้ร้องนำตลอด แล้วตอนเด็กๆ ก็จะได้ทำกิจกรรมกับโรงเรียนเยอะมาก ก็จะได้ทำอะไรที่มันใช้เสียงหมดเลย อย่างนำร้องเพลงชาติ นำสวดมนต์ แล้วเมื่อก่อน อยู่กับคุณยาย ก็ต้องอ่านบทสวดมนต์ให้คุณยายฟังก่อนนอน อ้อ แล้วตอนประถม ก็อยู่วงดนตรีไทยนะคะ เริ่มจากการร้องเพลงไทยเดิมด้วยซ้ำ”

ดา ฉายแววการเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก แต่เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าอะไรเป็นตัวจุดประกายความฝัน การทำงานเป็นศิลปินอาชีพให้กับเธอ?

ดา : “ตอนก่อนจะมาเซ็นสัญญากับแกรมมี่ มันเป็นโชคชะตามากๆ เลยค่ะ ตอนนั้นดาก็มีวงของดาไปเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่มัธยมต้น จนถึงมัธยมปลาย เราก็ไปซ้อมดนตรีกันกับวงตามปกติ แต่พอดีเจ้าของห้องซ้อมชื่อพี่จิ๋ว ได้ฟังตอนเราซ้อมกัน แล้วชอบ เลยอยากขอบันทึกเสียง แล้วก็ทำเป็น CD เอาไว้ เผื่อพี่เขาจะเอาไปให้เพื่อนๆ ที่เป็นโปรดิวเซอร์ที่แกรมมี่ลองฟังดู ซึ่งตอนนั้นน่าจะซักม.4 ค่ะ แล้วพี่จิ๋วก็เอา CD แผ่นนั้นมาให้ที่แกรมมี่ฟังจริงๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องเลย”

และ “น้ำตา” เพลงที่เธอแต่งเอง คือจุดเริ่มต้นเพลงเปลี่ยนชีวิตเธอเพลงแรก

ดา : “ เพลงนั้นก็เป็นเพลงแต่งเองเลยค่ะ สุดท้ายได้อยู่ในอัลบั้มแรกด้วย ชื่อเพลง “น้ำตา” อัลบั้มเดียวกับเพลง “เพื่อนสนิท” คือตอนช่วงที่พี่โปรดิวเซอร์ที่แกรมมี่ได้ CD ไปแล้วเนี่ย เขาก็บอกว่า อาทิตย์หน้าว่างไหม ลองมาร้องเพลงนี้ให้ฟังหน่อย แล้วเขาก็แต่งเพลงเพื่อนสนิท รอให้เราไปร้องค่ะ”

 

เพลง “เพื่อนสนิท” เพลงนี้เอง ที่ทำให้วงเอ็นโดรฟิน และ ดา เป็นที่รู้จัก และเปลี่ยนชีวิตเด็กสาวมัธยมปลายให้กลายเป็นศิลปิน นับจากนั้นเป็นต้นมา


แล้วชีวิตหลังจากเพลง “เพื่อนสนิท” ดังแล้ว เปลี่ยนไปมั้ยครับ?

ดา : “ เด็กม.5 ก็งงอยู่เลยค่ะ ฮ่าๆๆ ดายังนั่งรถสองแถวไปโรงเรียนอยู่เลย วิถีชีวิตเรายังไม่เปลี่ยนเลย แต่เราเริ่มทำตัวไม่ถูกละ เริ่มมีคนจำได้ เริ่มมีชื่อเสียงในโรงเรียน มีคนตามมากขึ้นเรื่อย มีขอลายเซ็นก็งง งงไปเลย”

กว่าจะปรับตัวได้นานมั้ย?

ดา : “ ก็ใช้เวลาพักใหญ่ แล้วเริ่มมาเข้าสู่ความยุ่งแบบเต็มตัวก็ตอนที่เริ่มมีทัวร์คอนเสิร์ตมากขึ้น ดาก็ต้องย้ายโรงเรียน ตอนนั้นจุดเปลี่ยนเลย ต้องเลือกอาชีพศิลปิน เพราะเราเอนทรานซ์ลำบากเพราะเวลาเรียนเราไม่ได้เต็มที่ ก็เลยปรับไปเรียนสายวิชาชีพเลย เรียนอนุปริญญาสองปี จบแล้วเราก็มุ่งมาทำอาชีพศิลปิน นักร้องเต็มตัว เราข้ามวัยมหาวิทยาลัยเลย”

ดาสองช่วงที่ประสบความสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงแรกในนาม เอนโดรฟิน แล้วต่อมา คือการเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัว แล้วคิดว่าเพลงอะไรที่ทำให้ดา เป็นที่ยอมรับในฐานะนักร้องเดี่ยว?

ดา : “เพลง “ภาพลวงตา” นี่แหละค่ะ ในอัลบั้มแรกเลย เพราะว่าเป็นเพลงที่ทำให้เรามีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก ในฐานะ ดา เอ็นโดรฟิน

Audio
เพลง “ภาพลวงดา” ดาเอ็นโดรฟิน

Text
แล้วชีวิตศิลปินเดี่ยวแตกต่างจากเดิมมากมั้ย?

ดา : “ก็เหงาในช่วงแรกๆ นะ แต่การที่เราไม่ได้อยู่กับวงแล้วก็เป็นเรื่องความแตกต่างทางด้านดนตรีมากกว่า เราต่างคนต่างมีความชอบไม่เหมือนกัน แต่พอเราแยกออกมา มันก็สามารถเล่าเรื่องที่เราอยากเล่าอยากพูดในฐานะศิลปินผู้หญิงต่อคนฟังได้มากขึ้น ได้เล่าเรื่องเป็นตัวแทนของผู้หญิงได้จริงๆ”

ดา เอ็นโดรฟิน ตอนนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับน้องผู้หญิงหลายคน ตอนนี้เรารู้สึกยังไง?

ดา : “ยินดีมากๆ นะคะ แต่อย่างที่ดาเคยคุยกับหลายๆ คน ถ้าเราพิสูจน์ด้วยผลงาน มันจะอยู่คงทน อยู่ได้นาน เราคิดว่า การเป็นแรงบันดาลใจ ความเป็นไอดอล น่าจะเกิดจากตัวงานของเรามากกว่า แล้วงานของเรา ก็มีคนเก่งๆ คอยช่วยเหลือมาเสมอๆ ต้องยกความดีส่วนหนึ่งให้ทีมทำเพลงด้วย ทีมีเพลงที่ดี เพลงที่ฮิตให้ดามาอย่างสม่ำเสมอทุกอัลบั้ม แล้วหน้าที่ของเราก็คือต้องร้องออกมาให้ดีที่สุด เล่นสดให้ดีที่สุดค่ะ”

สิ่งเหล่านี้จึงหล่อหลอมให้เพลงของดา อยู่ในทุกช่วงทุกยุคของเด็กผู้หญิงหลายๆ คน ที่มองดา เอ็นโดรฟิน ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเธอเหล่านั้นมาตลอด 14 ปี

 

แล้วประสบการณ์ใหม่ ฐานะโค้ชในรายการประกวดร้องเพลง เป็นยังไงบ้าง?

ดา : “เหมือนได้เห็นตัวเองตอนเริ่มต้นเลยค่ะ เห็นน้องๆที่มีความฝันได้เป็นศิลปิน นักร้อง อยากผ่านเข้ารอบ ความตั้งใจ ความตื่นเต้น มีร้องไห้กันบ้าง เหมือนเราได้ไปเจอกับตัวเองตอนเริ่มต้นใหม่ๆ เลย แล้วก็จะบอกน้องๆ ทุกครั้งเสมอว่า แค่ได้มายืนตรงนี้ ก็พิสูจน์ตัวเองได้มากแล้ว
สิ่งที่ดาพูดไปก็เพราะ ความรัก อยากให้กลับมาแล้วดีขึ้น แล้วถ้าถามเรื่องความกดดันที่ถูกเปรียบเทียบกับพี่ๆ คนก่อนๆ ดาจะบอกว่า ถ้าดามาด้วยการอยากจะให้กับเด็กๆ ดาก็จะไม่กดดันเลยค่ะ เราจะบอกน้องๆ เสมอว่า ความรู้เท่าที่พี่มี พี่ให้หมดเลยแล้วกัน”

ดาคิดว่าเพลงจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของวัยรุ่นได้จริงมั้ย?

ดา : “ เพลงมันเป็นเมมโมรี่อย่างหนึ่ง ที่มีความรู้สึก หรือความทรงจำฝังอยู่ในนั้น แล้วก็เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนน่าจะมีเพลงโปรด เพลย์ลิสต์โปรดของตัวเองอยู่แล้ว อยากให้ฟังเพลงด้วยใจ เพราะดาเชื่อว่าเพลงมีพลังมากๆ ทำให้เราร้องไห้ก็ได้ สร้างแรงบันดาลใจให้เราก็ได้ และบางทีเพลงก็จะพาให้คนที่มีฝันมายืนอยู่ในจุดที่ฝันไว้ได้เหมือนกัน”

สุดท้าย ฝากติดตามงานช่วงนี้ของดาได้เลยครับ

ดา : “ปีนี้ เดี๋ยวจะมีซิงเกิลใหม่ ตามมากลางๆ ปี ก็เป็นเพลงที่ดาได้แรงบันดาลใจมาจากความรักของเด็กๆ น้องๆ จากรายการ The Voice ครอบครัวของพวกเขาที่มาให้กำลังใจ เป็นความรู้สึกที่ดาได้มา เอามาเล่าผ่านทางพี่นิ่ม สีฟ้า มาช่วยเขียนให้ ฝากติดตามด้วยนะคะ
รวมถึง ช่วยเชียร์ The Voice ซีซั่นนี้จนจบด้วยนะคะ”

 

ขอขอบคุณ คุณน้ำหวาน ทีมงาน Aratist ที่เป็นธุระประสานงานการพูดคุยกันครั้งนี้ครับ

 



[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook