เพลงเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้วง Mild มาถึงวันนี้ได้ | Sanook Music

เพลงเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้วง Mild มาถึงวันนี้ได้

เพลงเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้วง Mild มาถึงวันนี้ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วงดนตรีจากเชียงใหม่ที่ไล่ตามความฝันด้วยกันจากที่เริ่มต้นด้วยความไม่รู้อะไรเลยในวงการเพลง มีเพียงใจรักในเสียงดนตรี แต่วันนี้เด็กหนุ่มทั้งหกคนกลายเป็นวงดนตรีที่เจอในงานเทศกาลดนตรีบ่อยที่สุดวงหนึ่ง มีเพลงฮิตที่ร้องตามกันได้มากมายเหลือเกิน จนถึงคนเบื้องหลังที่ช่วยชี้แนวทางการใช้ชีวิตในวงการเพลงบ้านเราให้กับศิลปินรุ่นน้อง วงที่เราเห็นพัฒนาการได้ชัดเจนมาตลอด วง Mild

แล้วเพลงอะไรบ้างที่สำคัญ และเป็นเพลงเปลี่ยนชีวิตเขา

เราถามเป้ก่อนในฐานะคนเขียนเพลงของวง เราอยากรู้ว่ามีเพลงอะไรไหมทำให้เขาเริ่มอยากเขียนเพลง

เป้ : “ของผมนี่ เพลงนี้สำคัญเลยครับ มันคือเพลง “ยืนยัน” ของ Black Head ครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากจะเป็นนักดนตรีจริงๆ อยากจะหัดเขียนเพลงเป็นเรื่องเป็นราว”


ส่วนวง Mild เพลงที่เป็นเพลงที่ทำให้เขาได้มาเจอกัน ได้มารู้จักกัน จนเป็นเพื่อน เป็นวงกันในวันนี้ก็คือเพลง “ฤดูที่แตกต่าง” ของบอยด์ โกศิยพงษ์

เป้ Sax : “มันเป็นเพลงที่ทำให้พวกเราได้เจอกัน ที่ถนนคนเดินที่เชียงใหม่ วันนั้น แล้วก็เป็นเพลงที่เราเอาไปประกวดด้วยกันเป็นครั้งแรก ตอนเล่นที่ถนนคนเดินนี่เราเล่นเปิดหมวก ต่างคนต่างเปิดหมวก สุดท้ายมารวมวงกันเล่นด้วยกันเพลงนี้”

เพลงนี้ที่ทำให้พวกเขาเริ่มฟอร์มวง เล่นดนตรีกันที่เชียงใหม่ แล้วก็เริ่มเล่นดนตรีประจำด้วยกันที่ร้านชื่อดังที่นั่น

เต่า : “ก่อนหน้านี้ เราก็ไปเล่นร้านเล็กๆก่อน แต่พอดีมีพี่ผู้จัดการ ชื่อพี่ดุ๊ก มาชวนไปเล่น แล้วเราจะเลือกเล่นแต่เพลงค่าย Bakery หมดเลย แล้วถ้าเป็นเพลงอื่นๆ ก็จะเอามาเรียบเรียงใหม่ เป็น Soul เพราะเรามีเครื่องเป่า จนวันนึงร้านใหญ่ พี่เขาส่งแมวมองมาดู ตอนเราอยู่ม.6 แล้วเขาเห็นว่ามันใหม่ดี เพราะตอนนั้นมันมีแต่วงร๊อค เขาก็เลยชวนเราไปเล่น”

ชีวิตนักดนตรีของพวกเขาเริ่มกันที่ตอนม.6 เท่านั้นซึ่งนับว่าเขาสะสมประสบการณ์กันมานานมาก จากชีวิตนักดนตรีเฮาส์แบนด์ที่นั่น จนในที่สุดเขาตัดสินใจทำเพลงของตัวเองเพลงแรกที่เปลี่ยนให้เขามาเป็นวง Mild เต็มตัวชื่อเพลงว่า Surprise

เป้ : “เพลงนี้ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มด้วยซ้ำ แต่อยู่ใน Compilation อันหนึ่งของค่าย Werkgang สมัยก่อน ถือเป็นการชิมลาง อาจจะไม่ใช่เพลงเขียนร่วมกันเป็นเพลงแรก แต่เป็นเพลงที่ Release ออกมาในฐานะวง Mild เป็นเพลงแรก”

Mild เริ่มผลิตงานของตัวเองออกมาและมีเพลงอีกหนึ่งเพลง ที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขาอีกครั้ง

เป้ : “Unloveable” ครับ เป็นเพลงที่ถูกเขียนมานานมากแล้ว แทบจะเป็นเพลงแรกๆ ที่เราเริ่มทำด้วยซ้ำแล้วก็ไม่คิดว่ามันจะดัง”

เต่า : เหมือนอัลบั้มแรกเราโฟกัสกับเพลง 2-3 เพลงแรกที่เราปล่อยออกมาก่อน เราพอใจในระดับนึงแล้ว คิดว่านี่คือหัวหอกหมดแล้ว แต่ Unloveable เหมือนเป็นเพลงสุดท้ายที่ปล่อยในอัลบั้ม ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร อัดแบบดีที่สุดเท่าที่จะได้ มีความรู้แค่นั้น”

ทอม : “เด็กปีสองปีสามทำเพลงอยู่เชียงใหม่ ตังค์ก็ไม่มี อุปกรณ์ก็ไม่มี ไม่ได้เรียนมาด้วย ก็พยายามสุดความสามารถเท่าที่จะได้อ่ะครับ”

ขุน : จริงๆ เพลงที่เราทำจะเป็น Funk เป็น Soul มากกว่า ไม่ได้คาดหวังว่าเพลง pop ง่ายๆอย่าง unloveable จะทำให้คนรู้จักเรา เริ่มจากฟังงานที่ฟังง่ายๆ ของเราก่อน

มันคงเป็นการทำงานในแบบที่วง Mild ชอบ แล้วความชอบของพวกเขาเองตรงใจตรงจริตของคนฟังพอดี ไม่ใช่โชคชะตา แต่เป็นความตั้งใจ และความรักในสิ่งที่พวกเขาทำต่างหาก

และความรู้สึกที่เปลี่ยนไปหลังจากนั้น นั่นคือการที่พวกเขาไปเล่นสดตามที่ต่างๆ แล้วคนร้องตามเพลงของพวกเขาได้
เป้ : แต่ก่อนมันยังไม่มีอะไรวัดได้แบบยอดวิวหรืออะไร สิ่งที่ทำให้เรารู้ได้ก็คือการที่คนมาดูเราเล่นสดต่างหาก แล้วคนตะโกนกลับมาก็มีมากขึ้นมาเรื่อยๆ”

 

การเดินทางของพวกเขายังไม่หยุดอยู่แค่นั้น แม้วง Mild จะเป็นที่รู้จักพอสมควรจากตอนนั้น แต่มีอีกหนึ่งเพลงที่พวกเขาคิดว่าได้ช่วยผลักให้เขาออกมาอยู่แถวหน้าได้อย่างชัดเจนที่สุดนั่นคือ...

เป้ : เพลง “กรรมตามสนอง” มั้งครับ ตอนนี้อยู่กับ Spicy Disc แล้ว เราเปลี่ยนภาพใหม่หมดเลย เปลี่ยนภาพใหม่ ค่ายใหม่ วิธีการทำงานที่เติบโตขึ้น ฟีดแบคที่กลับมามันใหญ่มาก มันทำให้วง Mild ไม่ได้เป็นแค่วงดนตรีแล้ว หลายคนจะเริ่มรู้จักเราในฐานะนักแต่งเพลง เป็น Producer น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุด”

ขุน : รางวัลพวกนี้ทำให้เรากลับมาดีใจ ที่ไม่ใช่ว่าแค่เพลงดัง ซึ่งโอเคแล้ว แต่มีการการันตีว่าสิ่งที่เราทำมันมีคุณภาพด้วย เราดีใจ และต้องรักษามาตรฐานที่มันยกระดับขึ้นมาให้ได้เรื่อยๆด้วย

ทอม : ต้องบอกว่าอัลบั้มสามของเรา เราเริ่มทำงานเป็นแบบจริงจัง รู้ว่าทำอะไรยังไง มีการวางแผน มาหมดเลย รู้เรื่องเลย

เต่า : เรามีจุดที่มันมากจุดหนึ่งคือหลังจากออกอัลบั้มสองเสร็จ หมดสัญญากับที่เก่า เราเริ่มเรียนรู้ที่จะทำอะไรเองหมดเลย รับงานเอง ออกมามั่ว มาผจญภัยเอง จนเราเริ่มได้ประสบการณ์

เป้ : จนเรารู้ Process เกือบทุกอย่างของวงการดนตรี

ทอม : ขนาดหาคนมาทำ MV เองอ่ะ

จากความไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนถึงตอนนี้ เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ลุยเอง ผจญเอง เจ็บเอง เจอเองจนรู้และเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้วง Mild เริ่มเป็นวงที่มีคาแรกเตอร์ที่ชัดขึ้น

เราจะมาคุยถึง การที่เป้เริ่ม แร๊พ อย่างจริงจังมากขึ้น

เป้ : จริงๆ ในงานทุกชุดที่ผ่านมาของเรามันมีแร๊พ มีฮิปฮอปอยู่แล้ว แต่คงต้องใช้เวลาในการยอมรับ และเพาะบ่ม เรียนรู้ จนชุดสามเนี่ย มันเริ่มสุกงอมพอดี
ผมหว่านเมล็ดลงไป มันเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว”

เพลงที่จุดเปลี่ยน ที่สำเร็จในการนำเสนอ แร๊พ ลงไปในเพลง pop มันคงเป็นเพลง Love sick นั่นคือการต่อยอดให้อัลบั้มชุดใหม่ของพวกเขา เป็นที่ยอมรับขึ้นในการเป็นวง Pop ที่เจอสีสันของฮิปฮอปและแร๊พลงไปได้อย่างลงตัว

เต่า : วงเราเป็น Variety pop อยู่แล้ว เราเลยลองคิดภาพในการทำงานอัลบั้มหลังๆ อย่างชุดที่สามก็อยากให้มันมีความเป็นสีเทาๆ กลางคืนกลางคืน Night life หน่อย เพลงเลยออกมามีความหม่นหน่อย จนมาถึงอัลบั้มสี่ เราก็มีโทนของเราแล้วล่ะ แต่ก็อยากจะใส่อะไรเข้าไปให้มันยิ่งชัด ก็เลยใส่ความเป็นฮิปฮอปเข้าไปให้มันชัดไปเลย
เราเรียกตัวเองว่าเป็น “Hip-pop” ซึ่งมันก็ไม่ใช่ฮิปฮอปจ๋า แต่ก็ลงตัว มีเอกลักษณ์

เป้ Sax : ยิ่งอัลบั้มสี่ เรายิ่งจะแบ่งฟังก์ชั่น ว่าเพลงนี้สำหรับขายของหน่อย เพลงนี้สำหรับไลฟ์ มันมีหน้าที่แต่ละแบบสำหรับแต่ละเพลง เราวางแผนกันถึงขั้นนั้นน่ะครับ

นั่นคือการเดินทางที่ผ่านบทเพลงเปลี่ยนชีวิตของวง ในแต่ละช่วงที่ผ่านมา และปัจจุบัน พวกเขากำลังง่วนกับการทำอัลบั้มชุดล่าสุด ชุดที่สี่ ชื่อว่า Four
และอีกหนึ่งงาน ที่พวกเขาพร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์ให้กับน้องๆนักดนตรีรุ่นถัดมานั่นคือ งาน Producer ให้กับวงต่าง

เป้ : เราทำทีม H.O.H Music Production มันย่อมาจาก House of Hits ครับ ก็ช่วยทำให้น้องๆ เพื่อนๆ เราหลายๆคนในทีม ทั้ง The Rube, Morning Soon หรือ Helmets Heads ซึ่งเราก็ทำเสร็จไปแล้ว

เราเองก็รู้สึกได้ว่า ทีมงานนี้เอง ก็ได้สร้างเพลงเปลี่ยนชีวิตให้กับวงอีกหลายวงเพลงฮิตต่างๆ ที่พวกเขาช่วยดูแลการผลิต นับว่าเป็นใช้การเริ่มต้นจากไม่รู้สั่งสมจนเกิดความรู้แบ่งปันมันออกไปสู่เพื่อนๆ น้องๆ ได้อีก

เป้ : รู้สึกเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆของพวกเราเหมือนกันครับ มีความสุขตรงที่เราเห็นเขาเล่นเพลงของตัวเองแล้วมีคนร้องตามได้ฮะ

อย่าลืมติดตามชม Mild กับคลิปมิวสิค วีดีโอสุดพิเศษจาก JOOX Moments ได้ที่นี่

Unlovable (JOOX Moments Version)

ซาโยนาระ (JOOX Moments Version)

 

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook