บทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ! ตลอดเส้นทางดนตรีกับ Jetset'er | Sanook Music

บทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ! ตลอดเส้นทางดนตรีกับ Jetset'er

บทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ! ตลอดเส้นทางดนตรีกับ Jetset'er
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา JOOX ได้จัดกิจกรรม Meet and Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกับ Jetset’er และไม่ลืมที่จะขอตัว 4 หนุ่มมาร่วมสนทนาถึง เส้นทางดนตรีตลอด12ปีของพวกเขา 

Jetset'er ได้เล่าย้อนกลับไปถึงการรวมตัวเล่นดนตรีด้วยกันครั้งแรก 

เอ็ด(มือกลอง) เล่าว่า "ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2547 Jetset’er ได้ถือกำเนิดขึ้น" (หัวเราะ) "หมู โอ และผม เรียนอยู่ด้วยกันที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ อยู่ชมรมดนตรีสากล เล่นดนตรีตั้งแต่ตอนนั้นรวมไปถึงเล่นดนตรีตอนกลางคืนด้วย วันหนึ่งคิดว่าเราน่าจะทำวงแบบจริงจัง ทำเพลงออกอัลบั้มกัน ก็เลยหานักร้องแล้วก็ได้ทีมาร่วมวง

เพลงส่วนใหญ่ของJetset'er ที่เรารู้จักกันดีจะเป็นอารมณ์รัก มีความสุข สดใส ซึ่งแตกต่างจากเพลงล่าสุด "คิดถึงเธอ" ซึ่งโอ (มือกีต้าร์)ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้ว่า

"พวกเราคุยกันว่านานๆที Jetset'er จะปล่อยเพลงเศร้าๆออกมา เพลงก่อนหน้านั้นก็คือ เพลง 'เธอเก่ง' แล้วเราก็รู้สึกว่าไหนๆอารมณ์ของเพลงที่วงปล่อยออกมายังอยู่ในโหมดเศร้าเลยคิดว่าเราปล่อยเพลงเศร้าต่อมาอีกเพลงหนึ่งแล้วกันเพลง คิดถึงเธอ จึงเป็นภาคต่อจากเพลง เธอเก่ง เหมือนอารมณ์ต่อเนื่อง ถ้ายกตัวอย่างว่าเธอเก่ง เป็นเพลงที่เหมือนแผ่นดินไหว เป็น main shock เพลง คิดถึงเธอ จะเป็น aftershock ที่ตามมา"

ทีเสริมว่า "เป็น aftershock ที่รุนแรงพอๆกับแผ่นดินไหวครั้งแรกเลยแหละครับ"

โอกล่าวต่อว่า "ถ้าเรามีคนสำคัญในชีวิตและเรายังคิดถึงเขาอยู่ ก็อยากให้เพลงๆนี้เป็นเหมือนสื่อกลางแทนความรู้สึกนั้นส่งไปให้ถึงเขา

และต้องบอกว่าเพลงใหม่ล่าสุด "คิดถึงเธอ”อารมณ์ของเพลงจะย้อนกลับมาเหมือน Jetset’er ในยุคอัลบั้มที่3 คือกลับมาเป็นซาวด์ทาง ป็อป โซล เหมือนที่เราชอบกันอยู่แล้ว เพราะว่าตอนที่เป็นเพลงเธอเก่ง มันจะออกร็อคนิดหนึ่ง ด้วยความที่อารมณ์ของเพลงมันรุนแรง ส่วนเพลงคิดถึงเธอ เราก็กลับมาใช้ซาวด์แบบเดิมของเรา แต่ว่ายังใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น อยู่ในคอนเซ้ปต์ของความเรียบง่ายอยู่ มีรายละเอียดของเครื่องดนตรีเยอะยู่เหมือนกัน มีไลน์ของเครื่องสาย เพียงแต่ไม่มีไลน์ของเครื่องเป่า "

 

แต่ละคนในวงมีศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำดนตรี โดยทีกล่าวว่า

"พวกเรามีวงดนตรีที่ชอบเหมือนกันคือ Earth, Wind & Fire เพราะเราจะฟังดนตรีแนวโซลกันเยอะ" ส่วนโอ The Brand New Heavies คือวงโปรดของเขา "วงนี้มีความเป็นกรู๊ฟอยู่เยอะมาก เป็นแนว acid funk เป็นวงที่เจ๋งมาก"

 

ตลอดเส้นทางสายดนตรีของ Jetset'er เห็นการเปลี่ยนแปลงของวงการเพลงไทยมากมายโดยเอ็ดเล่าว่า

"เราเป็นคนที่เกิดมาในยุดของเทปคาสเซ็ทนะครับ คือเราเหมือนคนสามแผ่นดิน เพราะเราอยู่ในยุคของเทปคาสเซ็ท แล้วเราโผล่มาแผ่นซีดี มาตอนนี้เราอยู่ในยุคขอดิจิตอล ดาวน์โหลดแล้ว รวมไปถึงสตรีมมิ่งด้วย"

ทีเสริม "คิดว่ามันก็มีทางเลือกสำหรับผู้ฟังที่เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่ว่าก็มีช่องทางที่เราสามารถจ่ายเงินเพื่อที่จะได้เพลงเหล่านั้นมาฟังอย่างถูกลิขสิทธิ์ คิดว่ามันก็เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีของเรา เมื่อก่อนเราเก็บอดออมเงินเพื่อจะไปซื้อเทปสักม้วนหนึ่ง เดี๋ยวนี้มีเงินก็ตัดยอดบัญชีไป ซื้อเพลง ฟังเพลงกันไป รู้สึกดีที่ได้ผ่านและเห็นหลายๆช่วง"

หมู (มือเบส) "ก็ทำให้ชีวิตคนฟังเพลงสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก่อนอาจจะพกเทปพกแผ่นซีดี แต่เดี๋ยวนี้ก็อยู่ในโทรศัพท์เรียบร้อย ฟังได้หลายเพลง"

โอกล่าวต่อ "เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่เราเข้าใจว่า ไม่มีสิ่งไหนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หน้าที่ของพวกเราก็คือการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย Jetset’er พร้อมปรับตัวเสมอครับ"

 

Jetset'er บอกเคล็ดลับถึงสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จมาตลอด12ปี

โอกล่าวปิดท้ายกับเราว่า "12ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ Jetset’er ยังคงมีความสุขกับการทำงานอยู่ตรงนี้ได้ ต้องบอกเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร เราถนัดที่จะทำอะไร ผมเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่สุดของวง Jetset’er เรามีความเป็นทีมเวิร์คที่ดีมาตลอด เราเคารพซึ่งกันและกัน เรามีทีมงานที่คอยสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมมาตลอด ซึ่งก็คือค่ายเพลง ต้องขอบคุณค่ายเพลง White Music ด้วยครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook