Zayn Malik เผย “ผมไม่เคยอยากอยู่ในวง One Direction เลย” | Sanook Music

Zayn Malik เผย “ผมไม่เคยอยากอยู่ในวง One Direction เลย”

Zayn Malik เผย “ผมไม่เคยอยากอยู่ในวง One Direction เลย”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 1 ปีเต็มที่หนุ่มน้อยอายุแค่ 22-23 ปี นามว่า Zayn Malik เดินออกจากวงบอยแบนด์ระดับโลก One Direction ด้วยเหตุผลที่บอกกับสื่อในตอนนั้นว่า “ทนรับความกดดันไม่ไหว”

หลังจากนั้นเขาก็ถูกดึงตัวไปให้สัมภาษณ์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์กับคนในวง One Direction มีทั้งเรื่องดี และไม่ดีหลุดออกมาจากปากเขา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างความเจ้ากี้เจ้าการของสมาชิกบางคนในวง ข้อจำกัดในเรื่องส่วนตัว เข่น การถูกห้ามทำสีผม หรือความรู้สึกลึกๆ ของเขาเองที่รู้สึกมาตลอดว่า “ไม่ได้อยากเป็นส่วนหนึ่งของวงบอยแบนด์” เพราะตัวเขาเองก็เข้ารับการออดิชั่นรายการ The X Factor ในฐานะศิลปินเดี่ยวมาตั้งแต่ต้น

ในตอนนี้เราจึงได้ฟังผลงานอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิตของเรา Mind of Mine ถึงแม้เจ้าตัวจะเอ่ยปากอย่างภาคภูมิใจว่า เขาเป็นคนลงมือแต่งเพลงเองทุกเพลง แต่ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ทำให้สื่อ และแฟนเพลงหลายคนสนใจผลงานชุดนี้ ก็เริ่มต้นมาจากการที่เขาเป็นอดีตสมาชิกวงบอยแบนด์จากประเทศอังกฤษนั่นแหละ

แต่ถึงกระนั้น เราจะมีอคติกับเขา ก่อนที่จะเปิดเพลงขึ้นมาฟังไม่ได้เด็ดขาด ZAYN ก็คือ ZAYN ไม่ใช่ One Direction

 

[Review] ZAYN – MIND OF MINE (คลิกเพื่อฟังเพลง)

 

หลายๆ อย่างในอัลบั้มนี้ดูจะเป็นสัญลักษณ์ไปเสียหมด  ตั้งแต่หน้าปกที่เป็นรูปเด็กใสๆ กับรอยสักเท่ๆ ที่แขน มันอาจเป็นไปได้ว่าสื่อถึงการเติบโตของตัว ZAYN เอง จากสมาชิกบอยแบนด์ ภาพลักษณ์สะอาดตากลายเป็นศิลปินเดี่ยวที่คราวนี้จัดเต็มทุกอย่างทั้งผมสีเทา หนวดเครา และแน่นอนว่าแนวเพลงที่ฉีกแนวออกไป จนเราจำเค้าโครงเดิมของป็อปบัลลาดของ One Direction ไม่ได้เลย

 

นอกจากจะมีการใส่แทร็ค intro ในช่วงเริ่มอัลบั้มเป็นการอุ่นเครื่อง mood & tone ของอัลบั้มทั้งหมดเหมือนกับศิลปินอื่นๆ บางคนแล้ว อัลบั้ม MIND OF MINE นี้ยังลูกเล่นเพิ่มเติมกับแทร็ค intermission ที่แทรกอยู่กลางอัลบั้ม ได้อารมณ์เอเชียแนวอินเดีย-ปากีสถาน เหมือนกับจะสื่อถึงรากเหง้าเชื้อชาติความเป็นตัวของเขาเองให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาให้มากขึ้น ชื่อเพลงก็สะกดด้วยตัวอักษรเดี๋ยวพิมพ์ใหญ่ เดี๋ยวพิมพ์เล็กบ้าง ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดบ้าง (เรียกได้ว่าไม่ได้สะกดแบบปกติเลยสักเพลง)

 

ภาพรวมของอัลบั้ม เราต้องขอย้ำอีกเป็นรอบที่ 3-4 ว่าให้ลืมเพลงของ One Direction ไปซะ ถ้าคุณเป็นแฟน One Direction อาจจะเกิดอาการ culture shock ได้ เพราะซาวนด์อเมริกันจ๋ามากๆ กลิ่นอายของป็อปบัลลาดแบบเดิมหายไปจนแทบไม่เหลือ อัดแน่นไปด้วยอาร์แอนด์บีเข้มข้น แม้กระทั่งเทคนิคการร้องก็ยังเปลี่ยนไป สไตล์การร้องแบบอาร์แอนด์บีถูกปัดฝุ่นมาโชว์กันอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่ามีของดีอะไรก็ใส่หมด นอกจากอาร์แอนด์บีเข้มๆ แล้ว ยังสอดแทรกอารมณ์เซ็กซี่ยั่วยวน ความเป็นผู้ใหญ่ ในแบบที่คุณอาจคิดไม่ถึงว่าเจ้าของเพลงเหล่านี้อายุแค่ 20 กว่าๆ

 

แทร็คแนะนำ (คลิกฟังทีละเพลงที่ชื่อเพลงได้เลยค่ะ)

 

 “PILLOWTALK” เป็นแทร็คที่เสียงร้องโดดเด่นพอๆ กับดนตรี ในขณะที่อีกหลายๆ เพลงที่เหลือจะโฟกัสที่ภาคดนตรีมากกว่าเสียงร้อง นอกจากเอ็มวีสุดเซ็กซี่ที่เป็น viral ในโลกออนไลน์แล้ว ถือเป็นเพลงแรกที่หนุ่ม ZAYN สอบผ่านในตลาด US โดยคว้าอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ปล่อยเลยทีเดียว

 

“Drunk” อีกหนึ่งแทร็คที่เป็นที่กล่าวถึงกันว่ามีส่วนผลมของเพลง “Let Me Love You” ของ Mario (ที่หนุ่ม ZAYN ใช้เป็นเพลงออดิชั่นในรายการ The X Factor) และเพลง “Ignition” ของ R.Kelly ให้ความรู้สึกถึงเพลงอาร์แอนด์บีที่ฟังแล้วดำดิ่งไปจนถึงห้วงเวลาเมาๆ ตามชื่อเพลงได้ดี เมโลดี้ก็สวยจนเราแอบคิดว่าสามารถตัดเป็นซิงเกิลได้สบาย

 

“Wrong ได้เสียงสวยๆ ของสาว Kehlani อดีตผู้เข้าแข่งขัน America’ Got Talent มาช่วยร้องให้ ทำให้เพลงมีความน่าสนใจ

 

“Fool For You” เมื่อได้เสียงเปียโนเข้ามา ความสมูทของป็อปบัลลาดก็เข้ามาเสริมให้เพลงรักเพลงนี้ดูนุ่มนวลขึ้น

 

“Bordersz เริ่มต้นด้วยเสียงกระซิบนุ่มแหลม ดนตรีละเอียด มีซาวนด์เจ๋งๆ แปลกๆ สอดแทรกให้รู้สึกถึงความสลับซับซ้อนของตัวเพลงมากยิ่งขึ้น จังหวะไม่เร็วไม่ช้า ฟังได้เรื่อยๆ

 

“LIKE I WOULD นอกจากประเด็นเรื่องเนื้อเพลงที่แฟนเพลง One Direction บางส่วนบอกว่ามีความคล้ายกันมากๆ กับเพลง I WOULD ของวงเก่าแล้ว เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่โชว์พลังเสียงออกมาได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีจังหวะของเพลงที่หลากหลาย ตั้งแต่อาร์แอนด์บีช้าๆ เนิบๆ และเร่งจังหวะมาเป็น EDM ที่แดนซ์ได้สบาย

 

โดยรวมหากบุกตลาดอเมริกาก็ถือว่าสอบผ่านแบบเกือบฉลุย เพราะนอกจากจะเป็นสไตลอาร์แอนด์บี ที่บวกเทคนิคเสียงกันพรวพราวลงไป ทำให้ภาคดนตรีสวยงาม และถูกใจขาอาร์แอนด์บีแล้ว หนุ่ม ZAYN ยังมีมาร์เก็ตติ้งที่ดี ทั้งเรื่องส่วนตัว และการแสดงที่เจนจัดจากประสบการณ์กับวงที่ทัวร์รอบโลกมาแล้ว แต่สิ่งที่เรายังอยากได้ยิน คือเอกลักษณ์ของเสียงที่หากทำได้ชัดเจนกว่านี้ ถึงขั้นว่าฟังเพลงปั๊บ รู้เลยว่าเป็นใครร้อง อย่างที่เราสามารถแยกเสียงของริฮานน่าออกจากเสียงของนักร้องอาร์แอนด์บีอื่นๆ ได้ หากทำได้อนาคตของหนุ่ม ZAYN ในวงการเพลงคงยังไปได้อีกไกลแน่นอน

 

____________________

Story : Jurairat N.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook