พอเสียทีกับค่ายเพลงนี้! Bon Jovi กล่าวไว้ | Sanook Music

พอเสียทีกับค่ายเพลงนี้! Bon Jovi กล่าวไว้

พอเสียทีกับค่ายเพลงนี้! Bon Jovi กล่าวไว้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากการร่วมทางของวงดนตรีระดับท๊อปของโลกอย่าง Bon Jovi กับค่าย Mercury Records มา 32 ปี (ถ้าแต่งงานกัน ลูกก็เรียนจบ ทำงานได้หลายปีแล้วนะเนี่ย) ก็ถึงเวลาที่ Bon Jovi ขอแยกทางเสียที

เหตุผลในการแยกทางนั้น ไม่ได้ระบุชัด แต่ Jon Bon Jovi ซึ่งเป็นหัวหน้าวง และนักร้องนำของวงก็ได้บอกว่า “จากที่เราอยู่ค่ายนี้มา 32 ปี เราทำเงินให้กับบริษัทมากมาย มากกว่าใครๆ ในค่ายเสียอีก” ซึ่งอัลบั้มของ Bon Jovi ขายได้ 21.8 ล้านอัลบั้มในสหรัฐอเมริกา เคยเข้าอันดับ 1 ของ Billboard, มีเพลงเข้าอันดับ Billboard Hot 100 hits ถึง 25 ครั้ง  (อันนี้ทำให้พอเดาได้เหมือนกันว่า “น่าจะ” ได้รับผลตอบแทนการทำงานที่ไม่ค่อยเป็นธรรมจากค่ายเพลงนัก)

สำหรับอัลบั้มสุดท้ายในการร่วมงานกันนั้น ชื่ออัลบั้มว่า Burning Bridges ซึ่งเป็นการทำงานในระหว่างที่ออกทัวร์ไปด้วย คาดว่าจะเสร็จในปี 2016 นี้ ซึ่งทาง Jon Bon Jovi เองก็บอกว่า อัลบั้มนี้ทำขึ้นมาเพื่อให้ครบสัญญาที่เซ็นเอาไว้ และประเด็นสำคัญคือ Jon Bon Jovi ได้บอกว่า “ถ้าคุณอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมได้เขียนทุกอย่างลงในเพลง Burning Bridges แล้ว... จบนะ

ว่าแล้วเราก็เลยลองเปิดฟังเพลง Burning Bridges และดูเนื้อเพลงไปด้วย ซึ่งเนื้อความบางท่อนเขียนไว้ดังนี้

 

"After 30 years of loyalty, they let you dig the grave
 Now maybe you can learn to sing or strum along
Well I'll give you half the publishing
You're why I wrote this song."

 

กว่า 30 ปี ของลิขสิทธิ์ เค้าให้คุณขุดหลุมศพเอาไว้
แล้วคุณก็เรียนรู้ที่จะร้องหรือเล่นดนตรีของคุณไป
แล้วผมก็ให้ค่าเผยแพร่ไปครึ่งนึงของทั้งหมด
นั่นเป็นเหตุผลทำให้ผมเขียนเพลงนี้อย่างหมดจด

คลิกเพื่อฟังเพลง Burning Bridges

อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ทายไม่ถูกแต่หวยล่ะครับ ก็อย่างที่คิด เป็นเรื่องของการแบ่งปันกลับให้ศิลปินอย่างไม่เป็นธรรมนี่เอง ซึ่งคาดว่านี่อาจจะเป็นแรงกระเพื่อมที่มีต่อวงการเพลงไม่มากก็น้อย วงดนตรีไหนที่ทำเงินได้เยอะแต่ได้ค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม อาจจะเอากรณีของ Bon Jovi มาเป็นตัวอย่าง และเตรียมพูดคุยกับทางค่ายเพลงในอนาคตก็เป็นได้

ก็อย่างว่าครับ โมเดลของค่ายเพลงและศิลปินแบบนี้ เป็นโมเดลธุรกิจแบบเก่า แต่หลังจากยุคดิจิตอลได้เข้ามา ทำให้อะไรๆ เปลี่ยนไปเยอะ มันก็เข้ากับคำพูดที่ Jon Bon Jovi ได้พูดไว้ว่า “This is the end of era” นี่คือการสิ้นสุดของยุคนี้แล้ว

Jon Bon Jovi ได้พูดส่งท้ายด้วยว่า สำหรับค่ายใหม่ที่เค้าจะไปอยู่ โอเคเลย สบายใจขึ้นเยอะ ส่วนแฟนเพลงอย่างเรา ก็รอฟังผลงานคุณภาพของเฮียเค้ากันต่อไปครับ และก็จับตาดูผลกระทบเรื่องค่ายเพลงในกรณีนี้อยู่ด้วย น่าจะมีแรงกระเพื่อมที่ค่อนข้างสำคัญเลยล่ะครับ

ภาพจาก GettyImages

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook